“พาณิชย์” เปิดช่องใหม่ขายข้าวในสต๊อกให้รัฐวิสาหกิจและเอกชนต่างประเทศยื่นซื้อข้าวได้โดยตรง แต่มีเงื่อนไขต้องส่งออกเท่านั้น เตรียมหารือชาวนาถกเกณฑ์จำนำข้าวเปลือกปี 56/57 วันที่ 23 ส.ค.นี้ มี 2 ทางเลือก จำนำ 1.5 หมื่นให้รอบเดียว ถ้า 1.2 หมื่นให้ 2 รอบ เตรียมเปิดประมูลข้าวในเอเฟต 1.4 แสนตันต้น ก.ย.นี้
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการระบายข้าวว่า ได้พิจารณาแนวทางการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลเพิ่มเติม โดยเห็นชอบการเปิดระบายข้าวให้แก่รัฐวิสาหกิจในต่างประเทศ หรือเอกชนต่างประเทศที่ติดต่อขอซื้อข้าวเข้ามาโดยตรง แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องซื้อข้าวสต๊อกรัฐไม่ต่ำกว่าราคาประมูลทั่วไป และราคาแบบที่ขายให้กับต่างประเทศในแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยจะต้องมีการส่งออกจริง หรือมีเอกสารการส่งออกมายืนยัน โดยจะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) อนุมัติในการประชุมวันที่ 26 ส.ค.นี้
“เชื่อว่าวิธีการดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลระบายข้าวในสต๊อกได้มากขึ้น เพราะขณะนี้มีเอกชนต่างประเทศเสนอซื้อข้าวหลายรายแล้ว ทั้งจากจีน และประเทศในตะวันออกกลาง ส่วนการประมูลข้าวให้กับภาคเอกชนในประเทศยังจะใช้วิธีนี้ต่อ แต่จะปรับหลักเกณฑ์การประมูล เช่น เดิมให้ประมูลแบบยกคลัง เป็นสามารถซื้อย่อยแยกกองได้ เพื่อจูงใจให้เอกชนมาเข้าร่วมประมูลมากขึ้น”
นอกจากนี้ยังได้อนุมัติให้นำข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 2-4 แสนตัน มาจัดทำเป็นข้าวถุง (5 กก.) ราคาพิเศษขายให้ประชาชนประมาณถุงละ 85 บาท โดยจะจ้างเอกชนให้มาทำ มีคณะกรรมการขึ้นมาบริหาร ให้นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ เป็นประธานที่ปรึกษา นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ เป็นประธานคณะทำงาน ร่วมด้วยตัวแทนจากกรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ องค์การคลังสินค้า (อคส.) เป็นต้น และจะจำหน่ายผ่านช่องทางร้านถูกใจ ร้านโชว์สวย ร้านธงฟ้า รวมถึงขายให้หน่วยงานราชการที่จำเป็นต้องนำไปใช้
นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า วันที่ 23 ส.ค.นี้จะหารือกับตัวแทนเกษตรกรทั้งจากสภาเกษตรกรแห่งชาติ สมาคมส่งเสริมชาวนาไทย สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย และสมาคมชาวนาข้าวไทย ถึงแนวทางการรับจำนำข้าวในรอบใหม่ทั้งเรื่องราคาและหลักเกณฑ์ เมื่อได้ข้อสรุปจะนำแนวทางทั้งหมดเสนอให้ กขช.พิจาณาว่าจะเลือกแนวทางใด ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป คาดว่าหลักเกณฑ์ใหม่จะทันกับการเปิดรับจำนำข้าวฤดูกาลใหม่ในเดือน ต.ค.นี้
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า แนวทางการรับจำนำข้าว หากรับจำนำข้าวเปลือกเจ้าที่ราคาตันละ 1.5 หมื่นบาทก็จะจำนำรอบเดียว หรือรับจำนำเฉพาะฤดูกาลนาปี 2556/57 แต่อาจขยายระยะเวลาให้นานขึ้น อาจทำให้คนที่ปลูกข้าวเปลือกนาปรัง 2557 สามารถมาใช้สิทธิ์นี้ได้ หากรับจำนำ 1.2 หมื่นบาทก็จะรับจำนำได้ 2 รอบ โดยเชื่อว่าการปรับหลักเกณฑ์รับจำนำข้าวดังกล่าวจะทำให้ใช้งบประมาณในการรับจำนำไม่เกิน 3 แสนล้านบาท
ส่วนการเปิดประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) จะเปิดประมูลข้าวล็อตแรกประมาณต้นเดือน ก.ย. 2556 เป็นข้าวขาว 1 แสนตัน ข้าวหอมมะลิ 4 หมื่นตัน รวม 1.4 แสนตัน และจะมีการรับมอบข้าวตั้งแต่เดือน พ.ย. 2556 เป็นต้นไป ส่วนปัญหาในเรื่องการวางหลักทรัพย์ค้ำประกันและค่าธรรมเนียมในการซื้อขายในเอเฟต 240 ล้านบาท นายนิวัฒน์ธำรงได้เห็นชอบที่จะนำเงินจากกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมาใช้ในการค้ำประกันแล้ว