ASTVผู้จัดการรายวัน - “เชลล์” ชี้ GDP ไทยหดส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำมันไม่มาก เหตุนโยบายรัฐคันแรก ดันครึ่งปีแรกมียอดจดทะเบียนรถใหม่เกือบ 6 แสนคัน พร้อมออกผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นเชลล์ เฮลิกซ์ HX8 0W-20 เจาะตลาดรถอีโคคาร์ ท้าชิง ปตท.ที่ออกสินค้ามาก่อนหน้านี้ มั่นใจ 2 ปียอดขายน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แตะ 1 ล้านลิตร/ปี
นายอัษฎา หะรินสุต ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทยในปีนี้อยู่ที่ 3.8-4.3% ลดลงจากเดิม 4.2-5.2% นั้นจะไม่ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลงมาก เนื่องจากตลาดรถยนต์ โตขึ้นมากจากยอดจดทะเบียนรถใหม่ในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้เกือบ 6 แสนคัน
ส่วนการลงทุนของเชลล์เป็นการลงทุนระยะยาว จึงไม่มีการปรับแผนการลงทุนแต่อย่างใด โดยบริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าขยายสถานีบริการน้ำมันใหม่เพิ่มขึ้นอีก 30-50 ปั๊มใน 2-3 ปีข้างหน้าส่วนใหญ่เป็นปั๊มที่เชลล์ลงทุนเอง จากปัจจุบันมีปั๊มทั้งหมด 550 ปั๊ม แต่บริษัทต้องการโตเร็วกว่านี้ ดังนั้นคงต้องมีการลงทุนร่วมกับคู่ค้าในการขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มมากขึ้น เพราะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเชลล์ลงทุนปรับปรุงและขยายปั๊มใหม่น้อยมาก ดังนั้นนับจากนี้จะเน้นการปรับปรุงภาพลักษณ์ของปั๊มเชลล์ใหม่ ควบคู่กับการขยายปั๊มเพิ่มด้วย อันจะมีผลช่วยดันส่วนแบ่งการตลาดค้าปลีกน้ำมันเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 12-13%
รวมทั้งมุ่งเน้นทำการตลาดน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20 มากขึ้น โดยจะเพิ่มจำนวนปั๊มที่จำหน่ายอี 20 คาดว่าสิ้นปีนี้เชลล์จะมีปั๊มน้ำมันที่ขายอี 20ไม่น้อยกว่า 100 ปั๊ม ส่วนน้ำมันอี 85 นั้นยังไม่ได้พิจารณาที่จะขาย เนื่องจากข้อจำกัดถังเก็บน้ำมันใต้ดินในปั๊ม อย่างไรก็ตามในเร็วๆ นี้ บริษัทฯ จะเลิกจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 95 ที่ปัจจุบันจำหน่ายอยู่เพียง 50-60 ปั๊ม เนื่องจากเห็นว่าลูกค้าเบนซิน 95 สามารถเปลี่ยนมาใช้แก๊สโซฮอล์ 85 ได้ แล้วหันมาขายแก๊สโซฮอล์อี 20 พร้อมพิจารณาออกบัตรน้ำมันเพื่อส่งเสริมการตลาดด้วย
นายอัษฎากล่าวต่อไปว่า จากจำนวนประชากรของโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ความต้องการใช้พลังงงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับไทยที่คาดการณ์ว่าความต้องการใช้พลังงานในไทยจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าในอีก 15 ปีข้างหน้า ในฐานะบริษัทน้ำมันชั้นนำของโลกที่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพช่วยประหยัดการใช้เชื้อเพลิง โดยบริษัทฯได้คิดค้นและพัฒนาน้ำมันเครื่องเชลล์ เฮลิกซ์ HX8 0W-20 ซึ่งเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้สำหรับรถยนต์อีโคคาร์โดยเฉพาะที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน API SN และมาตรฐานการประหยัดน้ำมันสูงสุด ILSAC GF-5 โดยไทยเป็นประเทศแรกของโลกที่เปิดตัวน้ำมันเครื่องประเภทนี้
ทั้งนี้ เป็นการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถยนต์ในประเทศ หลังจากนโยบายรถคันแรกที่รัฐบาลสนับสนุนและผลักดันการใช้รถยนต์อีโคคาร์ ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายต่างผลิตรถอีโคคาร์ จนปัจจุบันตลาดรถยนต์อีโคคาร์ในไทยมียอดสะสมอยู่ที่ 3.5 แสนคัน และจะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1.2 ล้านคันในปี 2558 คิดเป็นประมาณการใช้น้ำมันเครื่องกว่า 10 ล้านลิตร/ปี
นายทรอย แช็ปแมน กรรมการบริหาร ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนามและเกาหลีใต้ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้ตลาดน้ำมันเครื่องของไทยมีการใช้ไม่ต่างจากปีก่อนที่ แต่ยอดขายน้ำมันเครื่องของเชลล์โตสูงกว่าตลาด 2% ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ มั่นใจว่าทั้งปีบริษัทจะมียอดขายน้ำมันเครื่องประมาณ 9แสนลิตรจากปีก่อนอยู่ที่ 8 แสนลิตร หลังออกผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องใหม่ 2 เกรดทั้ง เชลล์ เฮลิกซ์ HX8 0W-20 และเชลล์ เฮลิกส์ HX8 5W-40 ซึ่งเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์สำหรับรถยนต์เบนซินรุ่นใหม่ มั่นใจว่าใน 2 ปีข้างหน้ายอดขายน้ำมันเครื่องกลุ่มสังเคราะห์แท้ของเชลล์จะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านลิตร/ปี ปัจจุบันเชลล์มีส่วนแบ่งตลาดน้ำมันเครื่องอยู่ที่ 31%
เมื่อปลายปี 2555 ทาง ปตท.ได้ออกผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องที่ใช้กับรถยนต์อีโคคาร์ คือ เพอร์ฟอร์มา ซูเปอร์ ซินเธติค SAE 0W-20 ซึ่งมียอดขายน้ำมันเครื่องเกรดดังกล่าวเติบโตทุกเดือนเฉลี่ย 15-20% ปัจจุบัน ปตท.มีส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันเครื่องอันดับหนึ่งอยู่ที่ 39% ตามผู้ค้ามาตรา 7
นายอัษฎากล่าวถึงกรณีที่เชลล์เสนอใช้คลังน้ำมันคลองเตยในการเก็บสำรองน้ำมันเพิ่มเติมจากเดิมเก็บอยู่ 50% ของความจุ หลังรัฐมีนโยบายให้ผู้ค้าน้ำมันสำรองฯเพิ่มขึ้นจาก 5% เป็น 6% นั้น ล่าสุดทางหน่วยงานรัฐไม่เห็นชอบ เนื่องจากคำนึงด้านความปลอดภัย ดังนั้น บริษัทฯจะมีการเจรจากับโรงกลั่นเพื่อขอเช่าคลังที่เหลืออยู่ และหารือกับพันธมิตรคู่ค้าอย่างแทปไลน์ และบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ (เอฟพีที) เพื่อขอใช้คลังหรืออาจจะต้องสร้างใหม่ ซึ่งจะเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในน้ำมัน
