“คมนาคม” ชงแผนลงทุนโครงการในช่วง 5 ปีให้ สคร.พิจารณาบรรจุในแผนยุทธศาสตร์ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน 56 (ฉบับใหม่) “วิเชียร” เผยนายกฯ นั่งประธานกำกับนโยบาย เชื่ออนุมัติโครงการรวดเร็วขึ้น ระบุมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรีพร้อมนำร่องร่วมทุนเอกชน คาดกรอบแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีอนุมัติได้ปีนี้
พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เกี่ยวกับการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การให้เอกชนร่วมทุนเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมว่า เพื่อทำความเข้าใจในการดำเนินโครงการต่างๆ ตามขั้นตอนใน พ.ร.บ.การให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ) ซึ่งปรับปรุงใหม่ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2556 กระทรวงคมนาคมจะเสนอยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติราชการกระทรวงซึ่งสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและแผนยุทธศาสตร์ประเทศในช่วง 5 ปีว่ามีโครงการใดบ้างที่จะให้เอกชนร่วมลงทุน ให้ สคร.พิจารณาและบรรจุในแผนยุทธศาสตร์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ซึ่งจะจัดทำแผนระยะเวลาครั้งละ 5 ปี โดยหลักจะต้องมีมูลค่าโครงการตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป
ทั้งนี้ โครงการที่มีความสำคัญและเร่งด่วนในการร่วมทุนฯ ในระยะเวลา 5 ปี ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ฉบับแรก ด้านการขนส่งทางถนน คือ โครงการทางด่วนและถนนที่มีการเก็บค่าผ่านทาง เช่น โครงการก่อสร้างทางด่วนสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-บ้านโป่ง-กาญจนบุรี) ซึ่งมีความพร้อมในการลงทุน, การขนส่งทางราง เช่น การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) การขนส่งทางน้ำ เช่น ท่าเรือ (รวมถึงกิจการเชิงพาณิชย์อื่นที่ใช้สถานที่หรือสาธารณูปโภคของท่าเรือ เช่นการพัฒนาที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างเพื่อการค้า หรือคลังสินค้า เป็นต้น), การขนส่งและจราจรในเขตเมือง เช่น ระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตเมือง (โครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ) และในระยะยาวหลัง 5 ปีจะเป็นด้านการขนส่งทางอากาศ เช่น การบริหารจัดการท่าอากาศยานที่อยู่ภายใต้การดูแลของกรมการบินพลเรือน (บพ.) และสถานีขนส่งผู้โดยสารของ บขส. และการขยายหรือบริหารระบบรถโดยสารด่วนพิเศษ (BRT) เป็นต้น
“มีหลายโครงการที่ต้องพิจารณาให้ชัดเจนว่าจะเข้า พ.ร.บ.ร่วมทุนหรือไม่ เช่น การพัฒนาจุดพักรถ (Rest Area) บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 (กรุงเทพฯ-ชลบุรี) ซี่งมี 4 จุด จะนับมูลค่ารวมทั้ง 4 จุด หรือแยกแต่ละจุด หรือสถานีขนส่งสินค้า สถานีขนส่งผู้โดยสาร จะเข้าข่ายร่วมทุนหรือไม่ สคร.จะพิจารณาโครงการใดสมควรให้เอกชนร่วมทุน และไม่สมควรให้เอกชนร่วมลงทุน” ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าว
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการโครงการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน 56 จะมีขั้นตอนการพิจารณาที่รวดเร็วขึ้น โดยจะมีคณะกรรมการนโยบาย มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานซึ่งอยู่ระหว่างจัดตั้ง ซึ่งจากประมาณการระยะเวลาในการอนุมัติแผนยุทธศาสตร์หลังจัดตั้งคณะกรรมการ ภายในเดือนสิงหาคมนี้, คณะกรรมการจะเสนอขอนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนจากกระทรวงตามมาตรา 20 ได้ในต้นเดือนกันยายน, รัฐมนตรีเสนอกรอบนโยบายต่อคณะกรรมการช่วงปลายเดือนกันยายน, รับฟังความเห็นจากหน่วยงานรัฐและสาธารณชนต้นเดือนตุลาคม, คณะกรรมการอนุมัติแผนยุทธศาสตร์กลางเดือนตุลาคม และคณะรัฐมนตรีอนุมัติแผนยุทธศาสตร์ปลายเดือนตุลาคม
