กรมการขนส่งฯ สัมมนาให้ความรู้ ยกระดับผู้ประกอบการและคนขับรถขนส่งวัตถุอันตรายทั้งส่วนกลางและภูมิภาคเพื่อลดความเสี่ยง ตามมาตรฐานรับเปิด AEC เผยรถขนวัตถุอันตรายมีกว่า 1.5 หมื่นคัน ออกกฎติด GPS ติดตามครบทุกคันสิ้นปี 57 และเตรียมจัดตั้งศูนย์ข้อมูลประวัติคนขับและคนประจำรถ คัดกรองก่อนรับเข้าทำงาน
นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ขบ.ได้จัดสัมมนาเรื่อง “ขนส่งวัตถุอันตรายอย่างไรให้ปลอดภัย” เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการขนส่งวัตถุอันตรายของประเทศให้สอดคล้องกับหลักสากล และลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติภัยในการขนส่งมากขึ้น รวมทั้งเพื่อส่งเสริมการพัฒนาการบริหารจัดการภัยพิบัติจากรถขนส่งวัตถุอันตรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกไม่ประจำทางและรถบรรทุกส่วนบุคคล ผู้แทนสมาคม/ชมรม ผู้ประกอบการขนส่งสินค้า ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมรวมทั้งสิ้นประมาณ 300 คน
ทั้งนี้ สำนักการขนส่งสินค้าจัดให้มีการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในการขนส่งวัตถุอันตรายอย่างถูกต้องและปลอดภัย รวมทั้งสร้างความตระหนักถึงภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบ และความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อกำหนดว่าด้วยการขนส่งวัตถุอันตรายของกรมการขนส่งทางบกให้แก่ผู้ประกอบการขนส่งวัตถุอันตรายทั่วประเทศ โดยเริ่มจากผู้ประกอบการขนส่งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และจะมีการจัดสัมมนาดังกล่าวในส่วนภูมิภาคอีกจำนวน 6 ครั้งเพื่อให้ครอบคลุม
โดยหัวข้อการสัมมนา ประกอบด้วย หน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ประกอบการขนส่งวัตถุอันตราย, กฎระเบียบและข้อกำหนดว่าด้วยการขนส่งวัตถุอันตราย โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ประกอบการขนส่งวัตถุอันตรายนำความรู้ความเข้าใจไปใช้ในการควบคุม กำกับ ดูแลผู้ขับรถ และรถที่ใช้ทำการขนส่ง รวมถึงการบริหารจัดการในการขนส่งวัตถุอันตรายของตนให้เกิดความปลอดภัยและลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงทางถนนได้อย่างยั่งยืน
นายสมชัยกล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการขนส่งที่รับจ้างขนส่งวัตถุอันตราย และผู้ประกอบการขนส่งส่วนบุคคลทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 4,101 ราย และมีจำนวนรถบรรทุกวัตถุอันตรายมากถึง 15,169 คัน ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้มีมาตรการป้องกันอุบัติเหตุในการขนส่งวัตถุอันตรายมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องติดตั้งป้ายอักษร ภาพและเครื่องหมาย บนรถที่บรรทุกวัตถุอันตรายทุกคัน เพื่อเป็นการพัฒนาการขนส่งสินค้าอันตรายให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและรองรับการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 รวมทั้งสอดคล้องกับความตกลงว่าด้วยการขนส่งสินค้าอันตรายระหว่างประเทศทางถนนของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจของยุโรปแห่งสหประชาชาติ (ADR)
และล่าสุดได้กำหนดให้รถโดยสารสาธารณะ และรถบรรทุกวัตถุอันตราย (ลักษณะ 4) รถลากจูง (ลักษณะ 9) ที่ใช้สำหรับลากรถกึ่งพ่วงบรรทุกวัตถุอันตรายต้องติดตั้งเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ (GPS Tracking) ตามแบบที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดทุกคัน เพื่อให้สามารถติดตาม ควบคุม กำกับดูแลพนักงานขับรถไม่ให้ขับเร็วเกินกำหนด และควบคุมชั่วโมงการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกำหนดให้รถที่จดทะเบียนใหม่ต้องติดตั้งเครื่อง GPS ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 ส่วนรถที่จดทะเบียนไว้ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2556 แต่ยังมิได้ติดตั้งเครื่อง GPS ต้องดำเนินการติดตั้งให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2556 และสำหรับรถที่ติดตั้ง GPS ไว้แล้วแต่ไม่เป็นไปตามประกาศนี้ ให้ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องภายในสิ้นปี 2557
นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกยังเตรียมจัดตั้งศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะและรถบรรทุกวัตถุอันตราย เพื่อรวบรวมข้อมูลประวัติผู้ขับรถและผู้ประจำรถให้แก่ผู้ประกอบการขนส่งที่จะรับเข้าทำงาน เพื่อเป็นการคัดกรองผู้ขับรถสาธารณะและรถบรรทุกวัตถุอันตรายที่ไม่มีคุณภาพออกจากระบบอีกด้วย