- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า ธนาคารพาณิชย์ในยุโรปปิดสาขาลงมากถึง 5,500 แห่งในปี 2555 (คิดเป็น 2.5% ของจำนวนสาขาที่เปิดดำเนินงาน) เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน ผนวกกับผู้บริโภคมีแนวโน้มใช้บริการผ่านระบบออนไลน์และโทรศัพท์เพิ่มขึ้น
- ฝรั่งเศสมียอดขาดดุลเดือน มิ.ย. 5.93 หมื่นล้านยูโร เพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากฝรั่งเศสเสนอความช่วยเหลือทางการเงิน 4.9 พันล้านยูโรแก่ ธ.เพื่อการลงทุนของยุโรปและกองทุนกลไกรักษาเสียรภาพยุโรป (ESM) อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายของรัฐบาลยังคงสอดคล้องกับร่างงบประมาณปี 2556
- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสเดือน มิ.ย.ลดลง 1.4% จากเดือนก่อน ซึ่งขัดแย้งกับมุม มองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เคยระบุว่าเศรษฐกิจทั้งในประเทศและในภูมิภาคปรับตัวดีขึ้น
- ยอดส่งออกของอังกฤษเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 2 โดยได้ปัจจัยหนุนจากดีมานด์นอกกลุ่มสหภาพยุโรป ซึ่งนับเป็นการส่งสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ดัชนีการผลิต บริการ และการก่อสร้าง ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือน ก.ค.
- ธนาคารกลางอังกฤษปรับแผนนโยบายทางการเงินโดยจะยังคงนโยบายเข้าซื้อสินทรัพย์แต่กำหนดเป้าหมายไว้เป็นมาตรวัดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ ได้แก่ 1. อัตราเงินเฟ้อต้องอยู่เหนือระดับเป้าหมาย 2.คงเป้าหมายเงินเฟ้อในระยะกลาง และ 3. เพิ่มความมั่นคงทางการเงิน นอกจากนี้ ยังปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปีนี้เป็น 1.5% และ 2.7% ในปีหน้า และจะยังไม่เปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากระดับปัจจุบันที่ 0.5% จนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงสู่เป้าหมายที่ 7%
- บารัค โอบามา จะแต่งตั้งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) คนใหม่ในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ก่อนที่เบน เบอร์นันเก้ จะครบวาระในเดือน ม.ค. ปีหน้า โดยจะคัดเลือกจากผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อที่ล้วนแต่มีคุณสมบัติสูงซึ่งรวมถึง ลอร์เรนซ์ ซัมเมอร์ส กับ เยลเลน ส่วนภาระกิจสำคัญของประธานFED คนใหม่คือ รักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ที่ระดับเหมาะสม ให้ความสำคัญกับตัวเลขว่างงาน รักษานโยบายการเงินให้แข็งแกร่ง และดูแลค่าเงินดอลลาร์ให้เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
- บารัค โอบามา แถลงแผนการ 4 ขั้นตอนเพื่อปฎิรูปโปรแกรมสอดแนมข้อมูลให้มีความโปรงใสยิ่งขึ้น โดยจะหาจุดสมดุลระหว่างความมั่นคงกับเสรีภาพพลเมืองในการปรับปรุงข้อบกพร่องในระบบสอดแนมข้อมูล ทั้งนี้ เพื่อฟื้นคืนความเชื่อมั่นของชาวอเมริกันหลังจากที่ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน เปิดเผยให้โลกรู้ว่าพลเมืองและองค์การต่างประเทศหลายแห่งกำลังตกเป็นเหยื่อสอดแนมของหน่วยข่าวกรองสหรัฐโดยไม่รู้ตัว สำหรับแผนการ 4 ขั้นตอน ได้แก่
- ประสานงานกับสภาคองเกรสเพื่อดำเนินการปฎิรูปมาตรา 215 ของ Patriot Act ที่อนุมัติให้หน่วยข่าวกรองเก็บข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของพลเมืองได้
- ปฎิรูปการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติจัดเก็บข้อมูลภายใต้มาตรา 215
- เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับโปรแกรมสอดแนมของ สนง.ความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ (NSA) ให้สาธารณชนรับทราบ เพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่น
- แต่งตั้งคณะทำงานระดับสูงซึ่งมาจากผู้เชี่ยวชาญภายนอก เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบโครงการสอดแนมของรัฐบาล
- สต็อคสินค้าคงคลังภาคธุรกิจของสหรัฐในเดือน มิ.ย.ลดลง 0.2% เป็นการลดลง 3 เดือนติดกันซึ่งบ่งชี้ว่า บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องเพิ่มสินค้าในสต็อคหลังจากมีความต้องการสูงขึ้น ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนุนโรงงานในสหรัฐ
- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) เปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบเดือน ก.ค. ลดลง 50,000 บาร์เรล/วัน สู่ 30.31 ล้านบาร์เรล/วัน เนื่องจากการผลิตในลิเบียและอิรักปรับตัวลดลง
- GDP ไตรมาส 2 ของญี่ปุ่นขยายตัว 2.6% โดยขยายตัวติดต่อกันมา 3 ไตรมาส จากแรงหนุนของยอดขายที่แข็งแกร่งของสินค้าหรูต่างๆ เช่น อัญมณี และการส่งออกก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3%เนื่องจากการดีดตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และข้อได้เปรียบจากเงินเยนที่อ่อนค่าลงตามนโยบายเศรษฐกิจ
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของญี่ปุ่นเดือน ก.ค.ลดลง 0.7% ลดลงต่อเนื่อง 2 เดือนสู่ 43.6โดยยังคงต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่า ผู้บริโภคยังมีมุมมองเชิงลบและเริ่มกังวลว่าราคาของที่ใช้ในชีวิตประจำวันจะแพงขึ้น
- สิงคโปร์ปรับคาดการณ์ GDP ปีนี้เป็น 2.5%-3.5% จากเดิม 1%-3% หลังจากในไตรมาส 2 เศรษฐกิจขยายตัว 3.8% ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากการฟื้นตัวของสหรัฐ การปรับตัวขึ้นของยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ในตลาดโลก รวมถึงความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมการเงินของสิงคโปร์ ซึ่งสามารถชดเชยผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวและเศรษฐกิจยุโรปที่ซบเซาได้
- ยอดขายบ้านใหม่ในจีนเดือน ก.ค.ลดลง 17% สู่ 5.165 แสนล้านหยวนเมื่อเทียบกับเดือนก่อนเนื่องจากนโยบายคุมเข้มด้านอสังหาริมทรัพย์ส่งผลให้แรงซื้อในตลาดซบเซา ทั้งนี้ ยอดขายบ้านเริ่มชะลอตัวลง หลังจากยอดซื้อเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงต้นปีก่อนที่รัฐบาลจะเริ่มดำเนินนโยบาย
- องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) เปิดเผยว่า ราคาอาหารโลกลดลง3 เดือนต่อเนื่อง โดยในเดือน ก.ค.ลดลง 1.9% สู่ระดับ 205.9 เพราะราคาธัญพืชและซีรีลลดลง แต่ราคาข้าวทรงตัว ในขณะที่ข้าวไทยมีราคาลดลงมากที่สุดและราคาข้าวเวียดนามสูงขึ้น
- SET Index วันศุกร์ปิดที่ 1,432.25 จุด ลดลง 14.91 จุด หรือ -1.03% ด้วยมูลค่าซื้อขาย31,244.35 ล้านบาท โดยดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวันเนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาว ทำให้นักลงทุนขายเพื่อปรับพอร์ต รวมถึงยังกังวลในสถานการณ์ทางการเมือง และกังวลเรื่องที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีกว่าที่คาดจนอาจทำให้มีการชะลอ QE ก่อนกำหนด
- เครดิต สวิส ธนาคารใหญ่อันดันสองของสวิสฯ ลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นสู่ระดับ“กลางๆ” จากระดับ เดิม “เพิ่มน้ำหนัก” หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับขึ้นต่อเนื่องตลอด 5 ปี โดยมองว่า ถึงแม้ปัจจัยพื้นฐานจะยังคงน่าดึงดูด แต่ตลาดมีลักษณะซื้อมากเกินไป (overbought) ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงเกินไป จึงเห็น upside เริ่มจำกัดในระยะสั้น ทั้งยังกังวลเรื่องการหยุด QEของ FED ซึ่งมีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะกลับมาสู่ภาวะปกติจนอาจกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ รวมถึงการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นทำให้ตลาดหุ้นดูเหมือนจะทรงตัวในภาวะ Consolidation stage ชั่วคราว
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วง -0.03% ถึง 0.00% โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวม 43,247 ล้านบาท สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยอายุ 1 เดือน 3 เดือน และ 6 เดือน วงเงินรวม 84,000 ล้านบาท
- Phillip Fisher “ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยรายย่อยที่รู้ราคาหุ้นทุกตัว แต่ไม่เคยรู้คุณค่าหุ้นเลยสักตัวเดียว”
- Robert Arnott “อะไรที่ลงทุนแล้วรู้สึกสบายๆ มักไม่ทำกำไรให้”
- Jim Cramer “ในบางครั้ง ตลาดก็สามารถทำสิ่งโง่ๆ ที่ทำให้เราอ้าปากค้างได้”
- Charlie Munger “ถ้าการลงทุนมันไม่ยากสักหน่อย ใครๆ ก็รวยแล้วสิ”
- Peter Lynch "จะใช้วิธีอะไรเลือกหุ้นหรือกองทุนหุ้นก็ตาม ความสำเร็จหรือความล้มเหลวขึ้นอยู่กับความอดทนที่เราจะวางอุเบกขาต่อข่าวดีร้ายที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และทำใจได้นานพอจนการลง ทุนให้ดอกออกผล"