รอยเตอร์ - คำร้องขออภัยโทษแก่ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตลูกจ้างซีไอเอผู้เปิดเผยความลับเกี่ยวกับปฏิบัติการ “ปริซึม” ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (NSA) มีผู้ลงนามสนับสนุนแล้วกว่า 30,000 ชื่อ หลังมีผู้ยื่นคำร้องผ่านเว็บไซต์ทำเนียบขาวได้เพียง 1 วัน
คำร้องซึ่งเขียนขึ้นโดยเจ้าของนามแฝง P.M. จากเมืองโรเชสเตอร์ มลรัฐนิวยอร์ก ถูกโพสต์ลงบนเว็บไซต์ทำเนียบขาวเมื่อวันอาทิตย์ (9) โดยมีใจความสำคัญว่า “เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน คือวีรบุรุษของชาติ และสมควรได้รับการอภัยโทษอย่างสมบูรณ์จากอาชญากรรมใดๆ ที่เขาได้กระทำ หรืออาจจะกระทำเกี่ยวกับการเผยความลับของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (NSA)”
สโนว์เดน ซึ่งทำงานให้บริษัทรับเหมารับจ้างปฏิบัติงานให้แก่เอ็นเอสเอ ออกคลิปวิดีโอจากฮ่องกงเมื่อวันอาทิตย์ (9) ว่า เขาเป็นคนเปิดโปงโครงการลับของเอ็นเอสเอ เพราะเห็นว่าไม่สามารถปล่อยให้รัฐบาลสหรัฐฯ ย่ำยีความเป็นส่วนตัว เสรีภาพในอินเทอร์เน็ต และเสรีภาพพื้นฐานของผู้คนทั่วโลก ด้วยระบบสอดแนมที่ถูกสร้างขึ้นอย่างลับๆ โดยใช้ชื่อว่า “ปริซึม” (PRISM) ได้
คาดกันว่าสโนว์เดนอาจถูกรัฐบาลฮ่องกงเนรเทศ และส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในสหรัฐฯ
เอ็นเอสเอขอให้รัฐบาลสอบสวนการเปิดโปงความลับดังกล่าวเป็นคดีอาชญากรรม ขณะที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ก็แถลงเมื่อวันอาทิตย์ (9) ว่า กระบวนการสอบสวนกำลังเริ่มขึ้นแล้ว
ทั้งนี้ หากคำร้องขออภัยโทษมีผู้ลงชื่อสนับสนุนถึง 100,000 คนภายในวันที่ 9 กรกฎาคม ทำเนียบขาวมีหน้าที่จะต้องรับพิจารณา ก่อนส่งต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญ และมีถ้อยแถลงตอบกลับอย่างเป็นทางการ ตามโครงการ “We the People” ของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ซึ่งเปิดโอกาสให้ชาวอเมริกันสามารถสื่อสารกับรัฐบาลได้โดยตรง
เจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาว ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานะของสโนว์เดนในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (10) โดยระบุแต่เพียงว่า “เมื่อมีผู้ยื่นคำร้อง รัฐบาลจะต้องรอจนกว่ามีผู้ลงนามสนับสนุนถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เมื่อนั้นเราจึงจะให้คำตอบได้ ซึ่งขณะนี้จำนวนผู้ลงนามยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ว่า”
คำร้องขออภัยโทษแก่สโนว์เดนมีผู้ลงชื่อสนับสนุนมากที่สุดในบรรดาคำร้องที่ถูกโพสต์ลงเว็บไซต์ https://petitions.whitehouse.gov/petitions ในระยะนี้ รองลงมาได้แก่คำร้องขอให้ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ลาออก ซึ่งมีผู้ลงนามสนับสนุนแล้วเกือบ 14,400 คน นอกจากนี้ยังมีคำร้องขอให้ยกเลิกกฎหมาย Patriot Act “เพื่อห้ามมิให้รัฐบาลสอดแนมข้อมูลอย่างลับๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งมีคนเข้าไปลงชื่อสนับสนุนแล้วประมาณ 7,000 คน