เอเจนซีส์ - เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ผู้เปิดโปงรัฐบาลสหรัฐฯ อาศัยโปรแกรมลับสุดยอดสอดแนมผู้ใช้โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตอย่างมากมายกว้างขวางยังคงหายตัวเข้ากลีบเมฆ ขณะสมาชิกรัฐสภาอเมริกันเรียกร้องให้ฮ่องกงส่งตัวจอมแฉกลับไปรับโทษฐาน “ทรยศชาติ” ด้านผู้สื่อข่าวของ “การ์เดียน” สื่อเจ้าแรกที่รายงานเผยแพร่ข้อมูลซึ่งสโนว์เดนนำมาเปิดโปง เผยยังมีเรื่องราวสำคัญอีกมากมายจากเอกสารที่อดีตลูกจ้างซีไอเอผู้นี้มอบให้เกี่ยวกับสายสนกลในระบบสอดแนมแดนอินทรี ซึ่งจะได้นำออกมาตีแผ่ในอนาคตอันใกล้
สโนว์เดน ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีวัย 29 ปี ที่ทำงานกับบริษัทรับเหมาทำสัญญาปฏิบัติงานให้สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอ็นเอสเอ) ได้เช็กเอาต์ออกจากโรงแรมในฮ่องกงในวันจันทร์ (10 มิ.ย.) หลังจากเปิดเผยตัวตนทางเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์การ์เดียนของอังกฤษเมื่อวันอาทิตย์ (9) และล่าสุดยังไม่มีใครรู้ตำแหน่งแห่งหนของชายหนุ่มผู้นี้
อดีตลูกจ้างสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) ผู้นี้กลายเป็นวีรบุรุษในชั่วพริบตาในสายตาผู้สนับสนุนความโปร่งใสและผู้สนับสนุนลัทธิเสรีนิยมทั่วโลก หลังจากออกมาเปิดโปงระบบ “ปริซึม” ที่เอ็นเอสเอใช้ติดตามตรวจสอบการใช้อินเทอร์เน็ตและบันทึกการใช้โทรศัพท์ของผู้ใช้รายย่อยทั่วโลก
กลุ่มผู้สนับสนุนกว่า 25,000 คนลงชื่อยื่นฎีกาออนไลน์เรียกร้องให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา อภัยโทษสโนว์เดนแม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีการตั้งข้อหาใดๆ ก็ตาม นอกจากนั้นยังมีคนอีกกลุ่มรณรงค์ทางเฟซบุ๊กระดมทุนสนับสนุนการสู้คดีให้แก่สโนว์เดนได้เกือบ 8,000 ดอลลาร์ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ตรงข้ามกับทางการอเมริกันซึ่งแสดงความกระตือรือร้นที่จะจัดการเอาผิดกับสโนว์เดน โดยในวันจันทร์ (10) สมาชิกอาวุโสของรัฐสภาหลายคนออกมาโจมตีว่า การกระทำของชายหนุ่มผู้นี้เป็นการ “ทรยศ” ประเทศชาติ และควรขอให้ฮ่องกงส่งตัวกลับโดยเร็วที่สุด
ไดแอนน์ เฟนสไตน์ วุฒิสมาชิกแคลิฟอร์เนียจากพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการการข่าวกรองของวุฒิสภา เปิดเผยคร่าวๆ ว่า ขณะนี้ทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการเชิงรุกเพื่อติดตามตัวสโนว์เดนกลับสู่สหรัฐฯ
ขณะที่ เจน พีซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สำทับว่า รัฐบาลอเมริกันลงนามข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกงในปี 1996 และยังมีผลบังคับใช้จนถึงขณะนี้
สมาชิกรัฐสภาจากทุกภาคส่วนการเมืองต่างเรียกร้องให้เร่งนำตัวสโนว์เดนกลับมาดำเนินคดี ขณะที่ผลสำรวจซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์พบว่า ชาวอเมริกันเกินครึ่งหนึ่งยอมรับว่าการติดตามตรวจสอบการคุกคามของการก่อการร้ายมีความสำคัญสูงกว่าการปกป้องความเป็นส่วนตัว
ทั้งนี้ เจมส์ แคลปเปอร์ ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวถึงการเปิดโปงของสโนว์เดนว่าส่งผลกระทบร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศ และได้ส่งเรื่องให้กระทรวงยุติธรรมเปิดการสอบสวนแล้ว
สโนว์เดนนั้นบอกกับการ์เดียนว่าต้องการลี้ภัยในไอซ์แลนด์ ทว่า ผู้อำนวยการสำนักงานผู้อพยพของไอซ์แลนด์เผยว่ายังไม่ได้รับคำร้องอย่างเป็นทางการจากสโนว์เดน นอกจากนี้ ตามกฎแล้วสโนว์เดนต้องอยู่ในดินแดนของไอซ์แลนด์เท่านั้นจึงจะร้องขอลี้ภัยได้
ขณะเดียวกัน มีการคาดเดากันไปต่างๆ นานาเกี่ยวกับท่าทีของฮ่องกงหากได้รับการร้องขอจากวอชิงตันให้ส่งตัวสโนว์เดน และนักวิเคราะห์ยังมองต่างมุมเรื่องที่ว่า ผู้ปกครองสูงสุดในปักกิ่งจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้หรือไม่
กรณีนี้ยังนำไปสู่เสียงเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ลดการพึ่งพิงพวกบริษัทภายนอกที่เป็นผู้รับเหมาทำสัญญาปฏิบัติงาน โดยเฉพาะสำหรับงานทางด้านข่าวกรอง เนื่องจากจนถึงเดือนตุลาคม 2012 มีพนักงานของบริษัทผู้รับเหมาสัญญาเหล่านี้ถึงราว 483,000 คนได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลข่าวกรองลับสุดยอด ทั้งนี้ จากรายงานของสำนักงานผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติที่เผยแพร่ออกมาในเดือนมกราคม
สำหรับตัวสโนว์เดนนั้นเป็นพนักงานของบูซ อัลเลน แฮมิลตัน บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารและเทคโนโลยีของเอ็นเอสเอ
บูซ อัลเลน บริษัทผู้รับเหมาด้านกลาโหมของสหรัฐฯ แถลงวันอังคาร (11) ว่า ทางบริษัทได้ปลดนายสโนว์เดน พนักงานวัย 29 ปี ซึ่งเป็นผู้ปูดความลับเกี่ยวกับโครงการสอดแนมทางอินเทอร์เน็ตและดักฟังโทรศัพท์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ออกจากการเป็นพนักงานแล้ว
บริษัทบูช อัลเลน ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า นายสโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายคอมพิวเตอร์ของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ หรือซีไอเอ ซึ่งได้รับเงินเดือน 122,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,600,000 สิ้นสุดวันทำงานเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ฐานละเมิดจริยธรรมของบริษัท และละเมิดนโยบายของบริษัท
บริษัทดังกล่าวระบุด้วยว่า รายงานข่าวที่ว่านายสโนว์เดนได้อ้างถึงข้อมูลลับที่เขาแพ่งพายออกไป ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจ และหากเป็นเรื่องจริง การกระทำเช่นนี้ยิ่งถือเป็นการละเมิดหลักจริยธรรมและคุณค่าของบริษัทอย่างมาก
ขณะเดียวกัน เกลนน์ กรีนวัลด์ ผู้สื่อข่าวการ์เดียนซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ฉบับแรกที่เผยแพร่ข่าวการเปิดโปงของสโนว์เดน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอพีว่า ยังมีเรื่องราวสำคัญอีกมากมายในเอกสารที่สโนว์เดนมอบให้ที่เขาเตรียมนำออกเผยแพร่ต่อไป โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเปิดเผยเมื่อใดเท่านั้น และสำทับว่าการ์เดียนตั้งใจถ่ายทอดทุกถ้อยคำจากเอกสารที่ได้รับมา