นายฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารภายใต้เครื่องหมายการค้า เอ็ม เค เปิดเผยถึงการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 185.85 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท ว่า บริษัทฯ กำหนดราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอหุ้นละ 49 บาท โดยจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นดังกล่าวในระหว่างวันที่ 5-7 สิงหาคม และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 15 สิงหาคม 2556
ที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) คือ บริษัทที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP นอกจากนี้บริษัทยังได้แต่งตั้งให้บริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ M และมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายอีก 8 บริษัทหลักทรัพย์ ประกอบด้วย บล.เกียรตินาคิน จำกัด, บล.กสิกรไทย จำกัด (มหาชน), บล. ซี แอล เอส เอ (ประเทศไทย) จำกัด, บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด, บล.ทรีนีตี้ จำกัด, บล.ทิสโก้ จำกัด, บล.ธนชาต จำกัด (มหาชน) และ บล.ฟินันเซียไซรัส จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินจากการเสนอขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้รวมจำนวน 9,100 ล้านบาทไปใช้ก่อสร้างโรงงานครัวกลางแห่งใหม่ 1,000 ล้านบาท การก่อสร้างสำนักงานแห่งใหม่ 320 ล้านบาท การขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศและสำรองไว้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ รองรับโอกาสทางธุรกิจในอนาคต ปัจจุบันความคืบหน้าการก่อสร้างครัวกลางแห่งใหม่บนถนนบางนา-ตราด กม.18 คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนตุลาคมนี้ สามารถรองรับการขยายสาขาได้อีกเท่าตัวจากปัจจุบัน
“สำหรับการขยายสาขาไปต่างประเทศ ปัจจุบันเดือน ก.ค.เรามีสาขาของเอ็มเค สุกี้ รวม 38 สาขา ในญี่ปุ่น เวียดนาม และเพิ่งเปิดสาขาแรกในสิงคโปร์ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา และมีสาขาของยาโยอิ รวม 4 สาขาในสิงคโปร์ ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดสาขาในต่างประเทศเพิ่มเติมในไตรมาส 3 ปีนี้ โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดสาขาเอ็มเค สุกี้ สาขาแรกในอินโดนีเซีย และเฉพาะแผนการขยายสาขาในสิงคโปร์ภายในสิ้นปี 2560 จะมีสาขาเอ็มเค สุกี้ 10 สาขา และยาโยอิ 15 สาขา” นายฤทธิ์กล่าว
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงที่ผ่านมา ในปี 2553 ถึงปี 2555 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 9,078 ล้านบาท 10,824 ล้านบาท และ 13,141 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโต 19.2% ในปี 2554 และ 21.4% ในปี 2555 จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า ในงวดเดือน มกราคม-มีนาคม 2555 และ 2556 บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,988 ล้านบาท และ 3,416 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า 14.3%
ทั้งนี้ รายได้รวมของบริษัทฯ แบ่งเป็นรายได้จากร้านเอ็มเค สุกี้ 85% และรายได้จากร้านยาโยอิ 13% โดยสัดส่วนรายได้ที่มาจากร้านอาหารญี่ปุ่นยาโยอิจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย
ด้านนายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายว่า ราคาหุ้นบริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M กำหนดที่ 49 บาทได้ทำการสำรวจความสำรวจความต้องการจากนักลงทุนสถาบัน (Book building) จากช่วงราคาที่เสนอที่ 45-49 บาท ซึ่งมียอดจองล้นมากถึง 18 เท่า ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายต่อนักลงทุนสถาบัน และที่ราคา IPO 49 บาท คิดเป็นอัตรา P/E เท่ากับ 21.8 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิสำหรับปี 2555 หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญหลังการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้ รวม 905.85 ล้านหุ้น ที่เท่ากับ 2.25 บาท เทียบกับ P/E ของผู้ประกอบการอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน ในช่วงระยะเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน ถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2556 เท่ากับ 34 เท่า หรือมีส่วนลด 36%
ทั้งนี้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินเชื่อว่าหุ้น M จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วไปสมการรอคอย เห็นได้จากยอดจองล้นของนักลงทุนสถาบัน เนื่องมาจากนักลงทุนมั่นใจในพื้นฐานธุรกิจและฐานะการเงินที่แข็งแกร่งมากของบริษัทฯ ทั้งด้านแบรนด์ที่อยู่ในใจของผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อสุขอนามัยด้านอาหาร เน้นคุณภาพอาหารสดและสะอาด การให้บริการมาเป็นที่หนึ่ง บริษัทมีผลประกอบการที่ดี และเติบโตอย่างชัดเจนและต่อเนื่องมาโดยตลอด มีการขยายสาขาอย่างรวดเร็วผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด
ปัจจุบัน ณ เดือน ก.ค.มี 473 สาขาทั่วประเทศ และ 42 สาขาในต่างประเทศ รวมถึงมีแผนการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศในอนาคตอย่างชัดเจน ถือได้ว่า M เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งมากบริษัทหนึ่ง จึงมั่นใจได้ว่า M ซึ่งกำลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเป็นอีกบริษัทที่ได้รับความสนใจและได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก