ผู้ผลิตรถยนต์ยอมรับยอดทิ้งใบจองรถคันแรกพุ่ง 2 แสนคัน เหตุแรงซื้อคนไทยถดถอย แถมค่ายรถอัดโปรโมชันกระตุ้นยอดขายเพียบ แนะรัฐบาลเดินหน้าโครงการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทกระตุ้น ศก. เหตุจำเป็นแต่ต้องดูแลจัดการปัญหาคอร์รัปชันด้วย ขณะที่ ก.อุตฯ เผยรถหรูยื่นขอนำเข้า สมอ.และทดสอบแค่ 15 คัน คาดสต๊อกเก่าเหลือเพียบ
นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากยอดจองใช้สิทธิ์รถยนต์คันแรกจำนวน 1.25 ล้านคัน ล่าสุดค่ายรถยนต์ได้มีการทยอยส่งมอบรถจนเกือบหมดแล้ว และจากการรวบรวมข้อมูลล่าสุดประเมินว่าจะมีการยกเลิกใบจองรวมประมาณ 2 แสนคันเนื่องจากแรงซื้อของคนไทยหดตัวไปมาก ซึ่งเข้าใจว่าเศรษฐกิจไทยทิศทางครึ่งปีหลังไม่ดีนักจากราคาภาคเกษตรที่ลดต่ำ ทั้งข้าว ยางพารา กุ้ง เป็นต้น
“ผมคิดว่าใบจองที่ค้างอยู่ที่สุดคงยกเลิก รวมๆ ก็คง 2 แสนคัน แต่คงไม่ใช่ปัญหาเพราะค่ายรถก็ต้องจัดโปรโมชันขายให้หมด ซึ่งส่วนหนึ่งแรงซื้อที่ลดลงและอีกส่วนหนึ่งเกิดจากโปรโมชันของค่ายรถที่โหมกระหน่ำลดแลกแจกแถมที่บางรุ่นลดไม่ต่างจากรถคันแรกแถมไม่ต้องรอคิวด้วย ซึ่งเห็นว่ารัฐบาลควรจะกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเดินหน้าโครงการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โดยบริหารจัดการเรื่องคอร์รัปชันในปีนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นเพราะจะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าเพราะช่วงนี้น้ำท่วมหลายที่หากท่วมใหญ่อีกประเทศเจ๊งแน่” นายศุภรัตน์กล่าว
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ผู้ที่นำเข้ารถยนต์อิสระหรือเกรย์มาร์เกตจะต้องขออนุญาตนำเข้าก่อนและนำไปทดสอบมาตรฐานกับสำนักงานมาตรฐาผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) โดยสถาบันยานยนต์จะเป็นผู้ทดสอบรถยนต์ ซึ่งจากรายงานเบื้องต้นพบว่าเกรย์มาร์เกตยื่นขอนำเข้าหลังวันที่ 1 ก.ค. ต่อ สมอ.เพียง 9 คำขอครอบคลุมจำนวนรถ 15 คัน ซึ่งได้นำมาทดสอบกับสถาบันยานยนต์แล้ว 6 คัน และทำการตรวจสอบและให้ใบอนุญาตแล้ว 4 คัน คาดว่าจะมาจากสต๊อกเก่าที่ยังคงค้างจำนวนมากซึ่งจะต้องติดตามช่วงไตรมาส 4 ว่าจะมีทิศทางอย่างไร
“ขอย้ำว่ารถยนต์เป็นมาตรฐานบังคับ หากไม่ดำเนินการทดสอบจะถือว่ากระทำผิดกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมา สมอ.ได้ปรับเกณฑ์การทดสอบเพื่อเอื้อให้ผู้นำเข้ามาทดสอบโดยรถนำเข้าก่อน 1 ก.ค. 56 โดยกำหนดค่าบริการทดสอบที่ลดลงมีผลถึง 15 ส.ค. 56 นี้ จึงต้องการให้ผู้ที่นำเข้ารถยนต์มาเร่งยื่นคำขอไม่เช่นนั้นค่าบริการจะสู่ปกติ คือรถยนต์เบนซินค่าบริการที่ลดให้เหลือ 4.5 หมื่นบาทต่อคันจากปกติจะเป็น 9.6 หมื่นบาทต่อคัน ดีเซลเหลือ 1.9 หมื่นบาทต่อคันจากปกติ 4.5 หมื่นบาทต่อคัน” นายวิฑูรย์กล่าว
ปัจจุบันมีผู้นำเข้ารถยนต์มายื่นคำขอแล้วจำนวน 1,183 คำขอ (ครอบคลุมรถจำนวน 3,954คัน) โดยจำนวนนี้ต้องนำตัวอย่างรถไปทดสอบจำนวน 1,212 คัน (ตัวอย่าง) ซึ่งขณะนี้ทดสอบเสร็จแล้วจำนวน 571 คัน (ตัวอย่าง) โดยในจำนวน 571 ตัวอย่างนี้ครอบคลุมรถเป็นจำนวน 2,198 คัน หรือคิดเป็น 55%