ASTVผู้จัดการรายวัน - สหภาพแรงงาน ททท. รวมตัวพนักงานแต่งชุดดำ ชุมนุมค้านมติบอร์ด แต่งตั้งผู้บริหารชุดใหม่ 25 ตำแหน่ง ระบุ “ผิดฝาผิดตัว” ขอเหตุผลและหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนเพื่อความโปร่งใส พ้อกระทบขวัญและกำลังใจทำรายได้ 2..2 ล้านล้านบาท ด้านผู้ว่าการ ททท. รับเรื่องพิจารณาอีกครั้ง เปรยเป็นการรวมตัวครั้งใหญ่สุดตั้งแต่ก่อตั้ง ททท. ส่วนเจ้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลั่น ผู้เสนอรายชื่อสมควรใช้ดุลยพินิจในการแก้ปัญหา
รายงานข่าวจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานใหญ่ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แจ้งว่า เวลาประมาณ 11.00 น. วันนี้ (24 ก.ค.) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สรทท.) และพนักงาน ททท. ประมาณ 100 คน ได้แต่งชุดดำรวมตัวกันที่ เรียกร้องให้ผู้บริหาร ททท. ทบทวนเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหาร ระดับ 10 และ 9 จำนวน 25 ตำแหน่งซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ททท. ในการประชุมครั้งที่ 7/2556 เมื่อวันที่ 17 ก.ค.56 เนื่องจากเห็นว่าบางตำแหน่งมีความไม่เหมาะสมและไม่โปร่งใส โดยก่อนหน้านี้ได้ยื่นหนังสือให้ผู้บริหารพิจารณาไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา
นายณัฐพงศ์ สุกกรี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สรทท.) เปิดเผยว่า การพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายเป็นอำนาจโดยตรงของฝ่ายบริหาร แต่การบริหารงานก็ควรได้รับการยอมรับจากบุคลากรในองค์กรด้วย เพราะการบริหารองค์กรให้มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องเปิดโอกาสให้พนักงานทุกระดับมีส่วนร่วมในการบริหารงาน เพราะฉะนั้นผู้บริหารจึงต้องบริหารงานอย่างชัดเจนและโปร่งใส เป็นที่ยอมรับทั้งบุคลากรภายในองค์กรและผู้ที่เกี่ยวข้องในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว นอกจากนี้ ตามระบบการประเมินคุณภาพรัฐวิสาหกิจ (SEPA) ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) นั้น ททท.จะต้องมีการดำเนินการเพื่อให้บุคลากรมีความผูกพันเพื่อความสำเร็จขององค์กรซึ่งต้องมีกระบวนการอย่างเป็นรูปธรรมด้วย
การรวมตัวของครั้งนี้เป็นความเห็นที่ตรงกันของพนักงาน ททท. ทั่วโลก ทั้ง 35 สาขาในประเทศและ 27 สาขาในต่างประเทศซึ่งมีการปรึกษาหารือในโซเชียลมีเดีย เนื่องจากเห็นว่าการบริหารองค์กรให้บรรลุถึงเป้าหมายนั้นจะต้องมีกระบวนการบริหารทรัพยากรบุคคลและงบประมาณที่มีประสิทธิภาพซึ่งในปัจจุบัน สหภาพฯ จึงจำเป็นต้องเสนอให้ผู้บริหารพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายใหม่โดยใช้หลักธรรมาภิบาล (Good Governance) ระบบคุณธรรม (Merit System) รวมไปถึงความสามารถและความมีอาวุโสในการปฏิบัติงาน จึงได้รวมตัวพนักงาน ททท. เพื่อยื่นหนังสือถึง ผู้ว่าการ ททท. และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อขอทราบหลักเกณฑ์การพิจารณาและขอให้ทบทวนการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้
นายณัฐพงศ์ กล่าวด้วยว่า ตามที่ รัฐบาลได้มอบหมายให้ ททท.สร้างรายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ถึงเป้าหมาย 2.2 ล้านล้านบาทภายในปี 2558 ซึ่งถือได้ว่าเป็นเป้าหมายที่ต้องมีวิสัยทัศน์และมีความสามารถทางวิชาชีพ รวมทั้งความสามารถในการบริหารงานทุกๆ ด้าน เพื่อให้มั่นใจว่าบุคลากรของ ททท. จะสามารถปฏิบัติงานเพื่อให้บรรลุภารกิจได้ตามเป้าหมายดังกล่าว การพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายในครั้งนี้จึงถือว่ามีผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรในองค์กรและอาจมีผลทำให้ ททท. ไม่สามารถดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าวได้
“ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราต้องยอมรับว่ารัฐวิสาหกิจมักถูกมองว่าเป็นองค์กรที่มีการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส ขณะที่ ททท. กำลังมีการปรับโครงสร้างตามนโยบาย Change พนักงานจึงต้องการให้มีความโปร่งใสและชัดเจนมากขึ้น รวมทั้งอยากรับรู้ความเปลี่ยนแปลงและต้องการคำตอบเท่านั้น เราไม่ได้เกี่ยงที่ตัวบุคคล แต่ต้องการเหตุผลในการพิจารณา เพราะการแต่งตั้งครั้งนี้ถือว่าผิดฝาผิดตัวและไม่เป็นธรรม โดยผู้บริหารบางท่านที่ได้รับการพิจารณาในบางตำแหน่งมีความไม่เหมาะสมทั้งความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และอาวุโส ทำให้พนักงานส่วนใหญ่มีความสงสัยในเรื่องหลักเกณฑ์ ในฐานะที่เราเป็นสหภาพฯ จึงรับเรื่องพนักงานมาเสนอต่อผู้บริหารเพื่อขอทราบหลักเกณฑ์และความชัดเจนในการพิจารณา รวมทั้งขอให้ทบทวนการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ เพราะการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการก่อตั้ง ททท.”
รายงานข่าวแจ้งว่า ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เดินทางมารับหนังสือร้องเรียนจาก สรรท. พร้อมกล่าวว่า การรวมตัวกันเรียกร้องของพนักงานในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 53 ปีนับตั้งแต่มีการก่อตั้ง ททท. ซึ่งตนขอยืนยันว่าการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้เป็นไปด้วยความโปร่งใสและไม่มีประเด็นทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่จะขอนำเรื่องไปพิจารณาอีกครั้งเพราะการทบทวนมติบอร์ดเป็น อำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยพร้อมจะชี้แจงให้พนักงานทราบเหตุผลภายในสัปดาห์นี้
“ผู้บริหารที่ได้รับการพิจารณาในครั้งล้วนแล้วแต่เป็นบุคลากรภายใน ททท. ซึ่งถือว่ามีความรู้ ความสามารถ และความเหมาะสมอย่างครบถ้วน เนื่องจากการบริหารการจัดการสมัยใหม่จำเป็นต้องใช้ผู้บริหารที่สามารถทำงานได้ทุกส่วน ทั้งด้านการตลาด งบประมาณ พัฒนา นโยบายและแผน ซึ่งถ้าหากไม่มีการหมุนเวียนบุคลากรภายในก็อาจทำให้องค์กรเติบโตได้ช้า โดยเฉพาะผู้ทำงานในระดับบริหารจำเป็นที่จะต้องเข้าใจระบบงานแต่ละด้านทั้งภาพรวมขององค์กร แต่พนักงานในระดับปฏิบัติอาจต้องใช้เวลาทำความเข้าใจสักระยะ โดยเฉพาะเรื่องการหมุนเวียนในตำแหน่งต่างๆ ซึ่งถือเป็นบริบทที่จำเป็นต้องมีการปรับปรุง”
ต่อมา นายณัฐพงศ์ พร้อมตัวแทน สรรท. และพนักงาน ททท. ประมาณ 50 คนได้เดินทางไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อมอบหนังสือร้องเรียนต่อ นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย นายสมศักย์ กล่าวว่า ตนไม่มีส่วนในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้และจะไม่เข้าไปแทรกแซงแต่อย่างใด เนื่องจากยึดหลักปฏิบัติตามข้อบังคับมาตรา 15 ของ ททท. แต่จะสอบถามเหตุผลไปยังผู้ว่าการ ททท. ในฐานะเป็นหนึ่งในบอร์ด ททท. ตามคำร้องขอของ สหภาพฯ เนื่องจากอำนาจการแต่งตั้งโยกย้ายขึ้นอยู่กับบอร์ด ถ้าผู้เกี่ยวข้องสามารถชี้แจงเหตุผลและความเหมาะสมได้ก็คงไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด โดยพร้อมจะปรึกษาร่วมกับฝ่ายกฎหมายเพื่อพิจารณายกร่างการทบทวนครั้งนี้ในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.56)
“ผมเชื่อว่าการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้เป็นไปด้วยความโปร่งใสอย่างแน่นอน เพราะตามระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน มีการกำหนดอย่างชัดเจนว่าในการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งใดๆ จะต้องพิจารณารายชื่ออย่างน้อย 3 บุคคลจากบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถทั้งหมด เพียงแต่พนักงานส่วนใหญ่อาจเห็นว่าไม่เหมาะสมอย่างผิดฝาผิดตัว จึงทำให้เกิดประวัติศาสตร์การรวมตัวเรียกร้องครั้งใหญ่นับตั้งแต่ก่อตั้ง ททท. มา 53 ปี จึงขึ้นกับอยู่กับดุลยพินิจของผู้เสนอรายชื่อคณะผู้บริหารชุดนี้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป”
อนึ่ง รายชื่อผู้บริหาร ททท. ที่ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายตามมติบอร์ด ททท. ครั้งนี้ ได้แก่ ระดับรองผู้ว่าการ ประกอบด้วย 1.นายอภิชาติ อินทร์พงษ์พันธ์ รองผู้ว่าการด้านบริหาร เป็นรองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน 2.นายพงศธร เกษสำลี รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน เป็นรองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ 3.นางสมรัก คำพุทธ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทั่วไป เป็น รองผู้ว่าการด้านบริหาร 4.นายศุกรีย์ สิทธิวนิช ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ เป็นรองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด
ระดับผู้อำนวยการฝ่าย ประกอบด้วย 1.นายประเสริฐ วรพิทักษ์ ผู้อำนวยการกองเผยแพร่โฆษณาในประเทศ เป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริการการตลาด 2.นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ต่างประเทศ เป็นผู้อำนวยการฝ่ายติดตามและบริหารความเสี่ยง 3.นางรุจิรัศมิ์ ฉัตรเฉลิมกิจ ผู้อำนวยการกลุ่มงานสื่อสารการตลาด เป็นผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก 4.นายวิบูลย์ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานกัวลาลัมเปอร์ เป็นผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ 5.นางสาวอังคณา พุ่มผกา ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานสมุทรงคราม เป็นผู้อำนวยการฝ่ายลงทุนธุรกิจท่องเที่ยว 6.นายบัญญัติ กาฬสุวรรณ ผู้อำนวยการกองกฎหมายและระเบียบ เป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทั่วไป 7.นายนพดล ภาคพรต ผู้อำนวยการกองส่งเสริมกิจกรรม เป็นผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม 8.นางสาวบุญศรี ทองหยิบ ผู้อำนวยการกองกลาง เป็นที่ปรึกษา 9 9.นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ ผู้อำนวยการกองตลาดยุโรป แอฟริกาและตะวันออกกลาง เป็นผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง 10.นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการกลุ่มสารสนเทศการตลาด เป็นผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ
11.นางภัทรพร สิทธิวนิช ผู้อำนวยการกองส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว เป็นผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ย ว12.นายวิษณุ เจริญศิลป์ ผู้อำนวยการกองตลาดอเมริกา เป็นผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ 13.นายปรเมศวร์ อมาตยกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ เป็นผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและงบประมาณ 14.นางสุชาดา บ่อทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายลงทุนธุรกิจท่องเที่ยว เป็นผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบภายใน15.นายวิวัฒน์ชัย บุญยภักดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม เป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทั่วไป 16.นางจำนงค์ จุณณปิยะ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก เป็นผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้และแปซิฟิกใต้ 17.นายชนะ ชัยชนะโยธินวัชระ ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและงบประมาณ เป็นผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน 18.นายอานุภาพ ธีรรัฐ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล เป็นผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ 19.นายมานิตย์ บุญฉิม ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง เป็นผู้อำนวยการฝ่ายวางแผน 20.นายสันติ ชุดินทรา ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผน เป็นผู้อำนวยการภูมิภาคตะวันออก 21.นางสมฤดี ชาญชัย ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ เป็นผู้อำนวยการภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
