“สวัสดิ์ หอรุ่งเรือง” เจ้าของวลีดัง “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” หนึ่งในเหยื่อวิกฤต “ต้มยำกุ้ง” ปี 40 จนมีหนี้ท่วมกว่าแสนล้าน เตือนบทเรียน “ฟองสบู่แตก” หวั่นการกู้เงินภาครัฐทำให้จุดชนวน “วิกฤตครั้งใหม่” ชี้มีการกระตุ้นให้เอกชนลงทุนขยายธุรกิจเร็วเกินไป และไม่มีใครสามารถระบุได้ว่าจะได้ผลตอบแทนจริงตามที่เขียนกู้ไว้หรือไม่
นายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) หรือ HEMRAJ เปิดเผยว่า การกู้เงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลจำนวน 2 ล้านล้านบาท รวมถึงการบริหารจัดการน้ำจำนวน 3.5 แสนล้านบาท อาจทำให้เกิดปัญหาวิกฤตฟองสบู่แตกได้อีกครั้ง
นายสวัสดิ์ให้เหตุผลว่า การลงทุนดังกล่าวของภาครัฐจะส่งผลให้ภาคเอกชนมีการลงทุนและขยายธุรกิจเร็วจนเกินไป ได้แก่หลายอุตสาหกรรมที่มีการพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับการลงทุนของทางภาครัฐ จึงทำให้การกู้เงินของรัฐบาลจะส่งผลให้มีภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น จึงอาจเป็นสัญญาณของการเกิดเหตุการณ์วิกฤตฟองสบู่แตกได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ ยังแนะนำให้รัฐบาลนำจำนวนเงินที่จะไปพัฒนาท่าเรือที่ทวายในประเทศพม่ามาลงทุนและพัฒนาในประเทศไทย โดยประเมินว่าประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางของประเทศในแถบอินโดจีน จึงมีโอกาสทำให้ประเทศคู่ค้าจากต่างประเทศสามารถเดินทางมาร่วมค้ากับประเทศไทยได้สะดวกกว่าในประเทศแถบเดียวกัน
“คาดว่าวิกฤตฟองสบู่ที่จะเกิดแก่ประเทศไทยในอีกครั้งนั้นอาจส่งผลมาจากการที่รัฐบาลกู้เงินในวงเงินที่สูง ซึ่งอาจทำให้หลายผู้ประกอบการมีความสนใจและลงทุนเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย จึงทำให้มีการลงทุนเพื่อหวังผลกำไร”
ขณะเดียวกันก็ไม่มีใครสามารถระบุได้ว่าจะได้รับผลตอบแทนในระยะสั้นหรือระยะยาว ซึ่งหากเป็นในระยะยาวนั้นทางภาคเอกชนอาจได้รับผลกระทบจากการที่กู้เงินจากธนาคารเพื่อมาลงทุน
อย่างไรก็ตาม ยังแนะนำให้รัฐบาลนำจำนวนวงเงิน 1 แสนล้านบาทที่จะเข้าไปลงทุนที่ท่าเรือทวายกลับมาลงทุนในประเทศไทย และพัฒนาท่าเรือต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพเพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางของแถบประเทศอินโดจีน
ทั้งนี้ นายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง เป็นนักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายจีนกวางตุ้งที่อยู่ในธุรกิจอุตสาหกรรมเหล็กกล้า และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท เอ็น.ที.เอส.สตีลกรุ๊ป จำกัด (NTS) และบริษัท นครไทยสตริปมิล จำกัด (NSM) [1] ต่อมาได้ก่อตั้ง บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) เพื่อประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เมื่อ พ.ศ. 2531
ภายหลังวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 ธุรกิจของนายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ต้องแบกรับภาระหนี้กว่าแสนล้านบาท และเป็นที่มาของวลีดังในช่วงนั้นว่า “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” และดำเนินการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้