จับตาบอร์ด ปตท. ระทึก 28 มิ.ย.ส่อบีบ “ไพรินทร์” พ้น CEO

จับตาบอร์ด ปตท. 28 มิ.ย.นี้ระทึก “ไพรินทร์” บิ๊ก ปตท.อาจตายน้ำตื้น ถูกปลดพ้น CEO หลังเข้าไปเป็นกรรมการอิสระของบริษัทเครือเสี่ยเจริญซึ่งขัดต่อคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งทำให้ฝ่ายการเมืองเดินเกมบีบออกได้ทันทีโดยไม่ต้องรอบอร์ดเล็กพิจารณาคุณสมบัติว่าผิดหรือไม่

แหล่งข่าวจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือบอร์ด ปตท. เปิดเผยว่า วันที่ 28 มิ.ย.นี้บอร์ด ปตท.ที่มีนายวิเชษฐ เกษมทองศรี เป็นประธานบอร์ด ปตท. คาดว่าจะมีการพิจารณาเรื่องการดำรงตำแหน่งของนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ หรือ CEO ปตท. ในกรณีที่ก่อนหน้านี้นายไพรินทร์ได้เข้าไปเป็นกรรมการอิสระของบริษัทเฟรเซอร์ แอนด์ นิฟ จำกัด (มหาชน) ในเครือของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ซึ่งถือว่าขัดต่อพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่ห้ามไม่ให้กรรมการและพนักงานเข้าไปเป็นกรรมการหรือที่ปรึกษาหรือทำงานให้แก่บริษัทอื่นๆ ยกเว้นประธานบอร์ด ปตท.จะมอบหมายให้ไปปฏิบัติหน้าที่นั้นๆ

“มีกระแสข่าวลืออย่างหนักว่าบอร์ดอาจจะพิจารณาคุณสมบัตินายไพรินทร์ทันทีในการประชุมบอร์ดครั้งนี้ โดยอาจไม่รอให้บอร์ด ปตท.ชุดเล็กหรือคณะกรรมการธรรมาภิบาล และกิจการเพื่อสังคมที่มีนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ เป็นประธานที่จะพิจารณาวันที่ 12 ก.ค.นี้ เพื่อส่งผ่านไปยังบอร์ดใหญ่ปลายเดือน ก.ค.” แหล่งข่าวกล่าว

ทั้งนี้ ประเด็นคุณสมบัติการไปนั่งเป็นกรรมการอิสระดังกล่าวของนายไพรินทร์ที่ผ่านมานั้น เมื่อมีการทักท้วงนายไพรินทร์ได้ยื่นใบลาออกแล้วโดยที่ยังไม่ได้เข้าไปร่วมทำงานกับบริษัทดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ได้นำเรื่องดังกล่าวขึ้นมาพิจารณา โดยระบุว่ามีผู้มาร้องเรียนให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายไพรินทร์ ซึ่งบอร์ด ปตท.จะต้องตรวจสอบ ไม่เช่นนั้นเท่ากับละเลยปฏิบัติหน้าที่

สำหรับประเด็นดังกล่าว ฝ่ายการเมืองได้มองในแง่กฎหมายตาม พ.ร.บ.คุณสมบัติและมาตรฐานฯ ถือว่านายไพรินทร์กระทำความผิดโดยสมบูรณ์แล้วแม้ว่าจะลาออกมาแล้วก็ตาม แต่หากมองในมุมของหลักรัฐศาสตร์ก็อาจตีความได้ว่า ความผิดดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้นเพราะนายไพรินทร์ยังไม่ได้เข้าไปทำงานในตำแหน่งกรรมการอิสระในบริษัทฯ ดังกล่าว ซึ่งคงอยู่ที่การเมืองจะตีความ

“กระแสการปลดนายไพรินทร์เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการที่นายไพรินทร์ถูกมองว่าไม่ตอบสนองงานการเมือง โดยเฉพาะ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ที่ต้องการให้ ปตท.เร่งขยายจำนวนปั๊มเอ็นจีวีและขยายเส้นทางท่อเอ็นจีวีให้เพิ่มขึ้น แต่ ปตท.ยืนยันว่าการเร่งขยายการให้บริการเอ็นจีวีก็จะทำให้ ปตท.ขาดทุนเพิ่มขึ้น จากปัจจุบัน ปตท.ขาดทุนจากการจำหน่ายเอ็นจีวีปีละประมาณหมื่นล้านบาท แต่กลับถูกควบคุมราคาจำหน่ายเอ็นจีวีไว้ต่ำกว่าต้นทุน” แหล่งข่าวกล่าว