ASTVผู้จัดการรายวัน - ทรูวิชั่นส์เพิ่มความเข้มใน 3 ยุทธศาสตร์หลัก อุดรูรั่วคอบอลไม่ให้ไหลตามพรีเมียร์ลีก ชูแพกเกจ 899 บาทชนซีทีเอช หวังขยายกลุ่มลูกค้าระดับกลางให้เพิ่มขึ้น พร้อมอัดเพิ่มอีก 2,100 ล้านบาทผุดช่องเอชดีเป็น 50 ช่องในอีก 90 วัน ตอกย้ำบัลลังก์ผู้นำช่องเอชดีที่ดีและมากที่สุด หว่านผลปีหน้ารุกหนักแพลตฟอร์มเคเบิล หวังได้ฐานสมาชิกใหม่อีก 1 ล้านรายใน 2 ปี มั่นใจสิ้นปีนี้มีสมาชิกร่วม 3.3 ล้านครัวเรือน
นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทรูวิชั่นส์พร้อมดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1. การเป็นผู้นำเทคโนโลยี 2. คอนเทนต์คุณภาพระดับโลก และ 3. เซอร์วิสที่ดีกว่า โดยให้ความสำคัญในทุกข้ออย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะรักษาฐานสมาชิกที่มีอยู่เดิม และเพิ่มฐานสมาชิกกลุ่มใหม่เข้ามาได้อีกมาก โดยเฉพาะในกลุ่มพรีเมียมกับโกลด์แพกเกจ และแพลทินัมแพกเกจ ที่เดิมจะได้รับชมคอนเทนต์พรีเมียร์ลีก ล่าสุดยังพบว่าด้วยบริการที่เพิ่มให้จากทั้ง 3 ยุทธศาสตร์ ทั้งการเพิ่มคอนเทนต์รายการให้มากขึ้น และเพิ่มช่องเอชดีอีก ทำให้ขณะนี้ยังไม่พบตัวเลขของลูกค้าที่ยกเลิกบริการลงไปมากนัก หรืออาจจะมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“จากการที่ทรูวิชั่นส์เพิ่มช่องรายการที่ดีมีคุณภาพแก่สมาชิกเพิ่มเติมหลังไม่มีพรีเมียร์ลีก พบว่าลูกค้าพึงพอใจกับบริการเสริมเหล่านี้ ส่งผลให้สมาชิกส่วนใหญ่ยังคงเลือกใช้บริการกับทางทรูวิชั่นส์ต่อ ทั้งนี้ ในอนาคตมองว่ากลุ่มสมาชิกระดับพรีเมียมจะยังคงมีจำนวนราว 4 แสนสมาชิกเท่าเดิมหรือเติบโตขึ้นเล็กน้อย โดยกลุ่มสมาชิกที่มีแนวโน้มเติบโตมากสุดหลังจากนี้คือ ระดับกลาง และล่าง เนื่องจากยังมีช่องว่างที่ทรูวิชั่นส์จะเข้าไปขยายฐานสมาชิกเพิ่มขึ้นได้อีก”
ล่าสุดบริษัทพร้อมใช้งบลงทุนกว่า 2,100 ล้านบาท แบ่งเป็น 1,000 ล้านบาทของปีนี้ และ 1,100 ล้านบาทในอีก 2 ปีข้างหน้า ในการพัฒนาเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์สำหรับขยายช่องรายการแบบเอชดีอีก 27 ช่อง จากเดิม 23 ช่อง รวมเป็น 50 ช่อง ภายใน 90 วันหลังจากนี้ พร้อมปรับแพกเกจการรับชมในกลุ่มสมาชิกระดับกลาง กับ 3 แพกเกจ คือ ซูเปอร์สปอร์ตแพกเกจ, ซูเปอร์โนว์เลจแพกเกจ และซูเปอร์เอนเตอร์เทนเมนต์ ให้สามารถรับชมช่องเอชดีเพิ่มขึ้น พร้อมเปิดตัวแพกเกจใหม่ล่าสุดคือ ซูเปอร์แฟมิลีแพกเกจ ราคา 899บาทต่อเดือน รวม 140 ช่อง และเป็นช่องเอชดี 32 ช่อง ถือเป็นแพกเกจที่ดีที่สุดในกลุ่มแพกเกจราคาใกล้เคียงกัน เริ่ม 1 ก.ค.นี้ ทั้งนี้ ลูกค้าในกลุ่มซูเปอร์เอนเตอร์เทนเมนต์ยังได้อัปเกรดช่องรายการเพิ่มให้อยู่ในกลุ่มซูเปอร์แฟมิลีแพกเกจด้วย โดยยังคงจ่ายค่าบริการเท่าเดิมที่ 799 บาท และหลังจากนี้แพกเกจสำหรับลูกค้าระดับกลางจะมีอยู่ 3 แพกเกจเท่านั้น คือ 1. ซูเปอร์สปอร์ตแพกเกจ 2. ซูเปอร์โนว์เลจแพกเกจ และ 3. ซูเปอร์แฟมิลีแพกเกจ
ปัจจุบันทรูวิชั่นส์มีฐานสมาชิกราว 2 ล้านครัวเรือน แบ่งออกเป็น 1. ลูกค้าพรีเมียม 10-20% 2. ลูกค้าระดับกลาง 10-15% และ 3. ลูกค้าระดับล่าง 60-70% เชื่อว่ากลุ่มลูกค้าระดับกลางจะเพิ่มเป็น 20-30% ได้ใน 1 ปีหลังจากนี้ หรือภายในสิ้นปีนี้ทรูวิชั่นส์มั่นใจว่าจะมีฐานสมาชิกรวมกว่า 3.3 ล้านครัวเรือน ส่วนในแง่รายได้นั้น กว่า 60% จะมาจากกลุ่มลูกค้าพรีเมียม รองลงมาคือกลุ่มลูกค้าระดับล่าง และระดับกลางตามลำดับ
นายอาณัติกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสมาชิกทรูวิชั่นส์สามารถรับชมได้ 3 แพลตฟอร์ม คือ ผ่านจาน, เคเบิลทีวี และอินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟน โดยในส่วนของเคเบิลทีวีนั้น ขณะนี้มีฐานสมาชิกอยู่ราว 1-2 แสนครัวเรือน และเป็นสมาชิกในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่หลังจากนี้ที่ทางทรูออนไลน์ได้วางโครงข่ายไฟเบอร์ออปติกทั่วประเทศรวม 61 จังหวัดในปีหน้า จะเป็นช่องทางหนึ่งที่ทรูวิชั่นส์จะใช้เป็นช่องทางการให้บริการแบบเคเบิลทีวีได้ คาดว่าภายใน 1-2 ปีหลังจากนี้จะมีฐานสมาชิกกลุ่มคเบิลทีวีเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านราย ส่วนการรับชมผ่านจานนั้น หลังดาวเทียมไทยคม 6 ขึ้นจะช่วยให้สามารถเพิ่มรายการคุณภาพได้อีกมาก เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ได้มากยิ่งขึ้น