ASTVผู้จัดการรายวัน - “ซีทีเอช” ทุบราคาแพกเกจพรีเมียร์ลีก ชูราคา 599 บาทต่อเดือน ดูครบ 380 แมทช์แน่นอน โดยเป็นราคาโปรโมชั่นจ่าย 2 ปีดู ได้3 ปี คาดสิ้นปียอดสมาชิกทะลุ 3 ล้านครัวเรือน และเป็นสมาชิกที่จ่ายเต็มดูพรีเมียร์ลีกร่วม 1 ล้านครัวเรือน ฟากทรูวิชั่นส์ขนทัพคอนเทนต์อุดช่องโหว ปล่อยช่องเอชดีเป็น 30 ช่อง นำเสนอลูกค้ารวม 6 แพกเกจ ต่ำสุด 299 บาทต่อเดือน ดูได้ 88 ช่อง
นายกฤษณัน งามผาติพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่มีกระแสข่าวออกมาเกี่ยวกับราคาแพกเกจพรีเมียร์ลีก ที่บริษัทได้ลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดมานั้น ล่าสุดบริษัทฯได้สรุปแพกเกจออกมาเพียงแพกเกจเดียว คือ 599 บาทต่อเดือน ภายใต้เงื่อนไข 4 ข้อ ซึ่งราคาที่สรุปอออกมาครั้งนี้ เนื่องจากทางซีทีเอชต้องการให้คนไทยได้เข้าถึงและรับชมรายการฟุตบอลพรีเมียร์ได้มากที่สุด โดยไม่ยุ่งยากในการเลือกแพกเกจที่หลากหลาย จึงเสนอออกมาเพียงราคาเดียว เฉลี่ยออกมาแล้วจ่ายเพียงวันละไม่ถึง 50 บาท หรือในเรตราคาข้าว 1 จานในชีวิตประจำวัน
สำหรับแพกเกจ 599 บาทต่อเดือนนั้น ถือเป็นราคาโปรโมชั่น ของสมาชิกใหม่ ที่สามารถรับชมช่องรายการจากทางซีทีเอชกว่า 140 ช่อง เป็นเอชดี 31 ช่อง และช่องEPL อีก 6 ช่อง ภายใต้เงื่อนไข 4 ข้อ คือ 1. จ่าย 599/เดือน แต่จะต้องจ่ายทั้งหมด 24 เดือนรวมครั้งเดียว ดูได้ 36 เดือน หรือจ่าย 2 ปี แถม 1 ปี พร้อมค่าติดตั้งฟรี ซึ่งลูกค้าสามารถผ่อนจ่าย 0% ได้ทั้ง 24 เดือนกับสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ
2.จ่าย 673 บาท/เดือน รายละเอียดคือ จ่าย 18 เดือนได้ดู 24 เดือน หรือจ่ายปีครึ่งได้ดู 2 ปี เพียงจ่ายหมดเพียงครั้งเดียว พร้อมค่าติดตั้งฟรี โดยลูกค้าสามารถผ่อนจ่าย 0% ได้ 10 เดือน 3. จ่าย 784 บาท/เดือน รายละเอียดคือ จ่าย 10 เดือนดูได้ 1 ปี หรือจ่ายทั้งหมดเพียงครั้งเดียว หรือผ่อนจ่ายได้ 0% 10 เดือน บวกค่าติดตั้ง 50% ของราคาทั้งหมด และ 4.จ่าย 899 บาท/เดือน รายละเอียดคือต้องจ่ายล่วงหน้า 1 เดือน พร้อมค่าบริการรายเดือน เดือนละ 899 บาทในเดือนต่อๆไป และค่าติดตั้ง 50% ของราคาทั้งหมด
ในส่วนของกล่องเซท ท็อป บ็อกซ์นั้น จะมีให้บริการ 2 แบบ คือ 1. จ่ายค่ามัดจำ 1,800 บาท และ 2.สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการมัดจำ จะต้องใช้บริการเช่ากล่องเป็นรายเดือน ในราคา 125 บาท/เดือน โดยซีทีเอชจะไม่มีระบบกล่องขายขาด
ทั้งนี้ลูกค้าสามารถรับชมซีทีเอชได้ 2 แพลทฟอร์ม คือ 1.เคเบิลทีวี และ 2.จานรับสัญญาณดาวเทียม โดยในส่วนนี้ปัจจุบันใช้ได้เฉพาะจานระบบเคยูแบนด์
อนาคตจะเพิ่มในส่วนของจานซีแบนด์ด้วย หากลูกค้ามีจานอยู่แล้วสามารถมัดจำ/เช่ากล่องมาติดตั้งได้เลย หากไม่มีสามารถซื้อจานของซีทีเอชซึ่งเป็นจานสีฟ้ามาติดตั้งพร้อมกล่อง โดยจะบวกราคาติดตั้งและจ่ายเพิ่มอีก 999 บาท ซึ่งแพลทฟอร์มจานรับสัญญาณดาวเทียมนี้ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ชมที่อยู่นอกพื้นที่ที่สายเคเบิลทีวีไปไม่ถึง
อย่างไรก็ตามสำหรับฐานสมาชิกเดิมกว่า 2.5 ล้านครัวเรือนนั้น กว่า 4 แสนครัวเรือนเป็นกลุ่มโฮมยูสโดยตรง และที่เหลือเป็นกลุ่มผู้อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม อพาร์ทเม้นท์ และโรงแรม ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้เปลี่ยนไปเป็นระบบกล่องเซ็ท ท็อป บ็อกซ์ แล้วกว่า 4-5 แสนกล่อง ภายในสิ้นปีนี้คาดว่าจะเปลี่ยนได้ครบ ซึ่งในส่วนของลูกค้าเก่านี้
ปัจจุบันจ่ายค่าสมาชิกรายเดือนอยู่ที่ 399 บาท โดยมีบางส่วนที่อาจจะไม่ต้องการปรับมาใช้เป็นแพกเกจพรีเมียร์ลีก ทางบริษัทจึงได้อัพเกรดแพกเกจใหม่ให้เฉพาะสมาชิกเก่าในราคาเดิม คือ 399 บาท โดยจากเดิมที่รับชมได้ 80 ช่อง จะเพิ่มเป็น 100 ช่อง และมีช่องเอชดีให้ 8 ช่อง พร้อมช่องEPL อีก 1 ช่อง ที่จะมีการถ่ายทอดสดคู่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอาทิตย์ละ 1 คู่
จากการเปิดตัวแพกเกจพรีเมียร์ลีกครั้งนี้ เชื่อว่าถึงสิ้นปีซีทีเอชจะมียอดสมาชิกทั้งหมดรวม 3 ล้านครัวเรือน และกว่า 1 ล้านครัวเรือน จะเป็นสมาชิกที่ใช้แพกเกจพรีเมียร์ลีก โดยกว่า 50%ของสมาชิกทั้งหมดเป็นกลุ่มคนกรุงเทพฯ และอีก 50% ที่เหลือมาจากต่างจังหวัด ทั้งนี้พบว่าดีมานด์ที่ติดต่อเข้ามาจะเป็นกลุ่มคนในกรุงเทพฯเป็นหลัก
ด้านนายวันชัย ศรีสุชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า โดยรวมซีทีเอชจะมีอยู่ 2 แพกเกจ คือ มีEPL และไม่มี EPL หลังจากเปิดตัวราคาแพกเกจครั้งนี้แล้ว เชื่อว่าจะมีลูกค้าโทรเข้ามาจองเพื่อติดตั้งไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นราย ขณะที่รายได้รวมจากEPL 3 ปีนับจากนี้ คาดว่าจะมีกำไรกว่า 20% เทียบจากราคาต้นทุนที่ประมูลพรีเมียร์ลีกมา
ทรูอุดช่องโหว่ ส่ง 6 แพกเกจรักษาฐาน
ในส่วนของทางบริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) โดยนายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายคอมเมอร์เชียล ก็ได้มีแผนตั้งรับศึกการถล่มราคาของซีทีเอชไว้แล้วเช่นกัน โดยเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลการแข่งขันพรีเมียร์ลีกจบลงครั้งนี้ เชื่อว่ายอดสมาชิกที่ต้องการชมแต่พรีเมียร์ลีกจริงๆจะหายไปเป็นตัวเลข 1 หลัก เมื่อเทียบกับฐานสมาชิกโดยรวมทั้งหมด ซึ่งทางบริษัทพร้อมนำเสนอคอนเท้นท์รายการอื่นๆที่มีคุณภาพมาเสริมทัพ ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ทั้งภาพยนตร์ และกีฬาอื่นๆ รวมถึงจะเพิ่มช่อง HD ให้เป็น 30 ช่อง
ล่าสุดได้เปิดตัว 2 แพกเกจใหม่ด้วย คือ 1.ซูเปอร์โนว-เลจ แพกเกจ ราคา 590 บาทต่อเดือน รับชมได้ 116 ช่อง โดยมีช่องรายการเพิ่มเข้ามาใหม่ 7 ช่อง คือ Discovery Home&Health, Discovery Turbo, Discovery Science, TLC, Discovery Kids และ H2 และ2.ซูเปอร์ สปอร์ต แพกเกจ ราคา 495 บาทต่อเดือน รับชมได้ 95 ช่อง ซึ่งเดิมแพกเกจนี้มีอยู่แล้ว ในราคาเดิมคือ 495.15 บาท แต่ครั้งนี้ได้เพิ่ม 4 ช่อง ใหม่ คือ TrueSport HD2, Golf Channel Thailand HD, TrueSport6 และ TrueSport7
ส่งผลให้ปัจจุบันทรูวิชั่นส์ มีทั้งหมด 6 แพกเกจ โดย 4 แพกเกจที่เหลือ คือ 1.แพลทินัม แพกเกจ ราคา 2,155.15 บาทต่อเดือน รับชมได้ 145 ช่อง และเป็น HD 23 ช่อง 2.โกลด์ แพกเกจ ราคา 1,568.12 บาทต่อเดือน รับชมได้ 124 ช่อง เป็นHD 16 ช่อง 3.ซูเปอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ แพกเกจ ราคา 790 บาทต่อเดือน รับชมได้ 115 ช่อง และเป็นHD 8 ช่อง และ4.โนวเลจ แพกเกจ ราคา 299 บาทต่อเดือน รับชมได้ 88 ช่อง
นายกฤษณัน งามผาติพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่มีกระแสข่าวออกมาเกี่ยวกับราคาแพกเกจพรีเมียร์ลีก ที่บริษัทได้ลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดมานั้น ล่าสุดบริษัทฯได้สรุปแพกเกจออกมาเพียงแพกเกจเดียว คือ 599 บาทต่อเดือน ภายใต้เงื่อนไข 4 ข้อ ซึ่งราคาที่สรุปอออกมาครั้งนี้ เนื่องจากทางซีทีเอชต้องการให้คนไทยได้เข้าถึงและรับชมรายการฟุตบอลพรีเมียร์ได้มากที่สุด โดยไม่ยุ่งยากในการเลือกแพกเกจที่หลากหลาย จึงเสนอออกมาเพียงราคาเดียว เฉลี่ยออกมาแล้วจ่ายเพียงวันละไม่ถึง 50 บาท หรือในเรตราคาข้าว 1 จานในชีวิตประจำวัน
สำหรับแพกเกจ 599 บาทต่อเดือนนั้น ถือเป็นราคาโปรโมชั่น ของสมาชิกใหม่ ที่สามารถรับชมช่องรายการจากทางซีทีเอชกว่า 140 ช่อง เป็นเอชดี 31 ช่อง และช่องEPL อีก 6 ช่อง ภายใต้เงื่อนไข 4 ข้อ คือ 1. จ่าย 599/เดือน แต่จะต้องจ่ายทั้งหมด 24 เดือนรวมครั้งเดียว ดูได้ 36 เดือน หรือจ่าย 2 ปี แถม 1 ปี พร้อมค่าติดตั้งฟรี ซึ่งลูกค้าสามารถผ่อนจ่าย 0% ได้ทั้ง 24 เดือนกับสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ
2.จ่าย 673 บาท/เดือน รายละเอียดคือ จ่าย 18 เดือนได้ดู 24 เดือน หรือจ่ายปีครึ่งได้ดู 2 ปี เพียงจ่ายหมดเพียงครั้งเดียว พร้อมค่าติดตั้งฟรี โดยลูกค้าสามารถผ่อนจ่าย 0% ได้ 10 เดือน 3. จ่าย 784 บาท/เดือน รายละเอียดคือ จ่าย 10 เดือนดูได้ 1 ปี หรือจ่ายทั้งหมดเพียงครั้งเดียว หรือผ่อนจ่ายได้ 0% 10 เดือน บวกค่าติดตั้ง 50% ของราคาทั้งหมด และ 4.จ่าย 899 บาท/เดือน รายละเอียดคือต้องจ่ายล่วงหน้า 1 เดือน พร้อมค่าบริการรายเดือน เดือนละ 899 บาทในเดือนต่อๆไป และค่าติดตั้ง 50% ของราคาทั้งหมด
ในส่วนของกล่องเซท ท็อป บ็อกซ์นั้น จะมีให้บริการ 2 แบบ คือ 1. จ่ายค่ามัดจำ 1,800 บาท และ 2.สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการมัดจำ จะต้องใช้บริการเช่ากล่องเป็นรายเดือน ในราคา 125 บาท/เดือน โดยซีทีเอชจะไม่มีระบบกล่องขายขาด
ทั้งนี้ลูกค้าสามารถรับชมซีทีเอชได้ 2 แพลทฟอร์ม คือ 1.เคเบิลทีวี และ 2.จานรับสัญญาณดาวเทียม โดยในส่วนนี้ปัจจุบันใช้ได้เฉพาะจานระบบเคยูแบนด์
อนาคตจะเพิ่มในส่วนของจานซีแบนด์ด้วย หากลูกค้ามีจานอยู่แล้วสามารถมัดจำ/เช่ากล่องมาติดตั้งได้เลย หากไม่มีสามารถซื้อจานของซีทีเอชซึ่งเป็นจานสีฟ้ามาติดตั้งพร้อมกล่อง โดยจะบวกราคาติดตั้งและจ่ายเพิ่มอีก 999 บาท ซึ่งแพลทฟอร์มจานรับสัญญาณดาวเทียมนี้ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ชมที่อยู่นอกพื้นที่ที่สายเคเบิลทีวีไปไม่ถึง
อย่างไรก็ตามสำหรับฐานสมาชิกเดิมกว่า 2.5 ล้านครัวเรือนนั้น กว่า 4 แสนครัวเรือนเป็นกลุ่มโฮมยูสโดยตรง และที่เหลือเป็นกลุ่มผู้อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม อพาร์ทเม้นท์ และโรงแรม ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้เปลี่ยนไปเป็นระบบกล่องเซ็ท ท็อป บ็อกซ์ แล้วกว่า 4-5 แสนกล่อง ภายในสิ้นปีนี้คาดว่าจะเปลี่ยนได้ครบ ซึ่งในส่วนของลูกค้าเก่านี้
ปัจจุบันจ่ายค่าสมาชิกรายเดือนอยู่ที่ 399 บาท โดยมีบางส่วนที่อาจจะไม่ต้องการปรับมาใช้เป็นแพกเกจพรีเมียร์ลีก ทางบริษัทจึงได้อัพเกรดแพกเกจใหม่ให้เฉพาะสมาชิกเก่าในราคาเดิม คือ 399 บาท โดยจากเดิมที่รับชมได้ 80 ช่อง จะเพิ่มเป็น 100 ช่อง และมีช่องเอชดีให้ 8 ช่อง พร้อมช่องEPL อีก 1 ช่อง ที่จะมีการถ่ายทอดสดคู่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอาทิตย์ละ 1 คู่
จากการเปิดตัวแพกเกจพรีเมียร์ลีกครั้งนี้ เชื่อว่าถึงสิ้นปีซีทีเอชจะมียอดสมาชิกทั้งหมดรวม 3 ล้านครัวเรือน และกว่า 1 ล้านครัวเรือน จะเป็นสมาชิกที่ใช้แพกเกจพรีเมียร์ลีก โดยกว่า 50%ของสมาชิกทั้งหมดเป็นกลุ่มคนกรุงเทพฯ และอีก 50% ที่เหลือมาจากต่างจังหวัด ทั้งนี้พบว่าดีมานด์ที่ติดต่อเข้ามาจะเป็นกลุ่มคนในกรุงเทพฯเป็นหลัก
ด้านนายวันชัย ศรีสุชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า โดยรวมซีทีเอชจะมีอยู่ 2 แพกเกจ คือ มีEPL และไม่มี EPL หลังจากเปิดตัวราคาแพกเกจครั้งนี้แล้ว เชื่อว่าจะมีลูกค้าโทรเข้ามาจองเพื่อติดตั้งไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นราย ขณะที่รายได้รวมจากEPL 3 ปีนับจากนี้ คาดว่าจะมีกำไรกว่า 20% เทียบจากราคาต้นทุนที่ประมูลพรีเมียร์ลีกมา
ทรูอุดช่องโหว่ ส่ง 6 แพกเกจรักษาฐาน
ในส่วนของทางบริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) โดยนายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายคอมเมอร์เชียล ก็ได้มีแผนตั้งรับศึกการถล่มราคาของซีทีเอชไว้แล้วเช่นกัน โดยเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลการแข่งขันพรีเมียร์ลีกจบลงครั้งนี้ เชื่อว่ายอดสมาชิกที่ต้องการชมแต่พรีเมียร์ลีกจริงๆจะหายไปเป็นตัวเลข 1 หลัก เมื่อเทียบกับฐานสมาชิกโดยรวมทั้งหมด ซึ่งทางบริษัทพร้อมนำเสนอคอนเท้นท์รายการอื่นๆที่มีคุณภาพมาเสริมทัพ ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ทั้งภาพยนตร์ และกีฬาอื่นๆ รวมถึงจะเพิ่มช่อง HD ให้เป็น 30 ช่อง
ล่าสุดได้เปิดตัว 2 แพกเกจใหม่ด้วย คือ 1.ซูเปอร์โนว-เลจ แพกเกจ ราคา 590 บาทต่อเดือน รับชมได้ 116 ช่อง โดยมีช่องรายการเพิ่มเข้ามาใหม่ 7 ช่อง คือ Discovery Home&Health, Discovery Turbo, Discovery Science, TLC, Discovery Kids และ H2 และ2.ซูเปอร์ สปอร์ต แพกเกจ ราคา 495 บาทต่อเดือน รับชมได้ 95 ช่อง ซึ่งเดิมแพกเกจนี้มีอยู่แล้ว ในราคาเดิมคือ 495.15 บาท แต่ครั้งนี้ได้เพิ่ม 4 ช่อง ใหม่ คือ TrueSport HD2, Golf Channel Thailand HD, TrueSport6 และ TrueSport7
ส่งผลให้ปัจจุบันทรูวิชั่นส์ มีทั้งหมด 6 แพกเกจ โดย 4 แพกเกจที่เหลือ คือ 1.แพลทินัม แพกเกจ ราคา 2,155.15 บาทต่อเดือน รับชมได้ 145 ช่อง และเป็น HD 23 ช่อง 2.โกลด์ แพกเกจ ราคา 1,568.12 บาทต่อเดือน รับชมได้ 124 ช่อง เป็นHD 16 ช่อง 3.ซูเปอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ แพกเกจ ราคา 790 บาทต่อเดือน รับชมได้ 115 ช่อง และเป็นHD 8 ช่อง และ4.โนวเลจ แพกเกจ ราคา 299 บาทต่อเดือน รับชมได้ 88 ช่อง