“พาณิชย์” ยันทำตามกฎหมายกรณีส่งตำรวจเรียกนิติบุคคลและกรรมการจ่ายค่าปรับกรณีไม่จัดส่งงบการเงินตามที่กฎหมายกำหนด เผยตำรวจส่งหมายเรียกพลาดทำยายขายถั่วเดือดร้อน ส่งเจ้าหน้าที่ขอโทษขอโพยแล้ว เตรียมประสาน สตช.ขอให้รัดกุม อย่าให้เกิดกรณีซ้ำอีก
ตามที่นางปรีดา เจริญสุข อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 5 ต.แหลมทราย อ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับหมายเรียกจากกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ อาคาร 2 ชั้น 9 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ในเวลา 10.00-15.00 น. วันที่ 24 พ.ค. 2556 ที่ผ่านมา ในหมายเรียกยังระบุว่าถ้าไม่ไปพบก็จะออกหมายจับ เพื่อจับกุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา มาตรา 66 ต่อไป
นายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวชี้แจงในเรื่องนี้ว่า บริษัท ฟิโลโซฟี แคป จำกัด ไม่ได้ส่งงบการเงินปี 2554 ซึ่งตามกฎหมาย พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ. 2545 มาตรา 11 วรรค 1 กำหนดไว้ว่า นิติบุคคลที่ไม่ส่งงบการเงินจะมีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และกรรมการผู้จัดการมีโทษปรับอีกไม่เกิน 1 หมื่นบาท ซึ่งกรมฯ ได้ยื่นเรื่องต่อ ปอศ.เพื่อดำเนินการให้บริษัทดังกล่าวเสียค่าปรับตามกฎหมาย
ทั้งนี้ หลังจากที่กรมฯ ได้ส่งเรื่องไปยังตำรวจ ทางตำรวจก็ต้องไปดำเนินการออกหมายเรียกบริษัทเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา และทำหมายเรียกถึงกรรมการบริษัท ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีกรรมการรวม 7 คน และหนึ่งในนั้นชื่อ น.ส.ปรีดา เจริญสุข ซึ่งมีตัวตนจริง แต่อายุ 24 ปี มีบ้านอยู่ที่ ซ.สวนหลวง 1 บางคอแหลม กรุงเทพฯ ซึ่งกรมฯ ได้ส่งที่อยู่แนบไปให้ตำรวจด้วย
“ตำรวจไม่ได้จัดส่งหมายเรียกไปตามที่อยู่ที่กรมฯ ให้ และได้ใช้วิธีค้นหาที่อยู่จากฐานข้อมูลของกรมการปกครอง ซึ่งพบว่ามีคนชื่อนี้อยู่ 12 คน เป็นหญิง 5 คน เป็นชาย 7 คน และได้ส่งหมายถึงคนชื่อดังกล่าวที่เป็นผู้หญิงทั้ง 5 คน รวมถึงนางปรีดา ที่มีอาชีพขายถั่ว ซึ่งตามข้อเท็จจริงต้องส่งไปให้คนเดียวตามชื่อและที่อยู่ที่กรมฯ ระบุ แต่ตำรวจส่งไปหมด และที่อยู่ก็ยังคล้ายๆ กัน คือ ซ.สวนหลวง กับ อ.หลังสวน” นายบรรยงค์กล่าว
นายบรรยงค์กล่าวว่า กรมฯ แม้จะไม่ใช่ผู้ที่ทำผิดโดยตรง แต่ได้ส่งหัวหน้าสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดชุมพรขับรถไปถึง อ.หลังสวนไปหาคุณป้าเพื่อขอโทษขอโพยแล้ว ซึ่งหัวหน้าสำนักงานฯ เพิ่งไปถึงเมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 มิ.ย. 2556 และได้รายงานให้ตนทราบแล้ว ซึ่งคุณป้าก็เข้าใจดี
อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้นอีก กรมฯ ได้เซ็นหนังสือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อซักซ้อมวิธีการดำเนินการ เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก และขอให้ออกหมายเรียกไปยังบุคคลตามที่อยู่ที่กรมฯ ระบุแนบไปให้เท่านั้น