กิฟฟารีนทุ่ม 130 ล้านบาทผุดโรงงานผลิตฟังก์ชันนัลดริงก์และอาหาร ดันรายได้สู่ปีที่ 20 ทะลุ 10,000 ล้านบาท ล่าสุดปีนี้ทุ่มงบการตลาดกว่า 100 ล้านบาทโหมโฆษณา 3 เรื่อง กระตุ้นยอดขายสู่ 6,500 ล้านบาท โตขึ้น 10%
แพทย์หญิงนลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2558 กิฟฟารีนจะเข้าสู่ปีที่ 20 ซึ่งทางบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ไม่ต่ำกว่า 9,000-10,000 ล้านบาทต่อปี หรือหลังจากนี้จะต้องมีอัตราการเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 10% ทุกปี
ขณะที่แผนการดำเนินงานนั้น บริษัทพร้อมใช้งบลงทุนกว่า 130-140 ล้านบาทสำหรับเพิ่ม 2 โรงงานใหม่ คือ 1. โรงงานผลิตฟังก์ชันนัลดริงก์ บนพื้นที่ 5 ไร่ ติดกับพื้นที่โรงงานเดิมที่นวนคร ใช้งบลงทุนกว่า 66 ล้านบาท โดยดำเนินการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และ 2. โรงงานผลิตกลุ่มอาหาร ซึ่งขณะนี้กำลังเจรจาการซื้อขายพื้นที่ก่อสร้างที่ติดกับโรงงานเดิมอยู่เช่นกัน หากไม่ได้เล็งพื้นที่ใหม่ที่สระบุรี ภายใต้งบการลงทุนใกล้เคียงกันที่ 66 ล้านบาท น่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
ด้านนายพงศ์พสุ อุณาพรหม ผู้อำนวยการใหญ่สายการตลาด บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด กล่าวเสริมว่า แผนการดำเนิงานของกิฟฟารีนจะรุกในกลุ่มฟังก์ชันนัลดริงก์และอาหารมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมองว่าผู้บริโภคปัจจุบันไม่มีเวลา แต่มองหาอาหารและเครื่องดื่มที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งประหยัดเวลาในการทำ
จากเดิมกลุ่มฟังก์ชันนัลดริงก์มีอยู่ 4-5 รายการ จะพัฒนาเพิ่มเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มอาหารนั้นขณะนี้มีอยู่ 5 รายการเช่นกัน เช่น เส้นหมี่, คัฟเค้ก, ข้าวสาร, แป้งชุบทอด หากโรงงานก่อสร้างแล้วเสร็จจะเพิ่มกลุ่มสแน็กพร้อมปรุงเข้ามาอีกไม่ต่ำกว่า 5 รายการ
ส่วนปีนี้พร้อมใช้งบการตลาดรวมกว่า 100 ล้านบาทเท่าปีก่อน โดยกว่า 40 ล้านบาทใช้สำหรับการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา 3 เรื่อง คือ WE, TRUST และ SUPPORT มั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นให้รายได้รวมปีนี้สู่ 6,500 ล้านบาท โตขึ้น 10% ส่วนยอดขายส่งออกนั้นจะมีอยู่ 2 ส่วน คือ 1. ส่งออก 100 ล้านบาท 2. ไลเซนส์ในประเทศเพื่อนบ้านอีก 100 ล้านบาท โดยมีฐานสมาชิกทั่วประเทศกว่า 6.5 ล้านคน เฉลี่ยมีสมาชิกใหม่เดือนละ 2.3
หมื่นคน
แพทย์หญิงนลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2558 กิฟฟารีนจะเข้าสู่ปีที่ 20 ซึ่งทางบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ไม่ต่ำกว่า 9,000-10,000 ล้านบาทต่อปี หรือหลังจากนี้จะต้องมีอัตราการเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 10% ทุกปี
ขณะที่แผนการดำเนินงานนั้น บริษัทพร้อมใช้งบลงทุนกว่า 130-140 ล้านบาทสำหรับเพิ่ม 2 โรงงานใหม่ คือ 1. โรงงานผลิตฟังก์ชันนัลดริงก์ บนพื้นที่ 5 ไร่ ติดกับพื้นที่โรงงานเดิมที่นวนคร ใช้งบลงทุนกว่า 66 ล้านบาท โดยดำเนินการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และ 2. โรงงานผลิตกลุ่มอาหาร ซึ่งขณะนี้กำลังเจรจาการซื้อขายพื้นที่ก่อสร้างที่ติดกับโรงงานเดิมอยู่เช่นกัน หากไม่ได้เล็งพื้นที่ใหม่ที่สระบุรี ภายใต้งบการลงทุนใกล้เคียงกันที่ 66 ล้านบาท น่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
ด้านนายพงศ์พสุ อุณาพรหม ผู้อำนวยการใหญ่สายการตลาด บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด กล่าวเสริมว่า แผนการดำเนิงานของกิฟฟารีนจะรุกในกลุ่มฟังก์ชันนัลดริงก์และอาหารมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมองว่าผู้บริโภคปัจจุบันไม่มีเวลา แต่มองหาอาหารและเครื่องดื่มที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งประหยัดเวลาในการทำ
จากเดิมกลุ่มฟังก์ชันนัลดริงก์มีอยู่ 4-5 รายการ จะพัฒนาเพิ่มเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มอาหารนั้นขณะนี้มีอยู่ 5 รายการเช่นกัน เช่น เส้นหมี่, คัฟเค้ก, ข้าวสาร, แป้งชุบทอด หากโรงงานก่อสร้างแล้วเสร็จจะเพิ่มกลุ่มสแน็กพร้อมปรุงเข้ามาอีกไม่ต่ำกว่า 5 รายการ
ส่วนปีนี้พร้อมใช้งบการตลาดรวมกว่า 100 ล้านบาทเท่าปีก่อน โดยกว่า 40 ล้านบาทใช้สำหรับการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา 3 เรื่อง คือ WE, TRUST และ SUPPORT มั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นให้รายได้รวมปีนี้สู่ 6,500 ล้านบาท โตขึ้น 10% ส่วนยอดขายส่งออกนั้นจะมีอยู่ 2 ส่วน คือ 1. ส่งออก 100 ล้านบาท 2. ไลเซนส์ในประเทศเพื่อนบ้านอีก 100 ล้านบาท โดยมีฐานสมาชิกทั่วประเทศกว่า 6.5 ล้านคน เฉลี่ยมีสมาชิกใหม่เดือนละ 2.3
หมื่นคน