เจเล่ทุ่ม 50 ล้านบาทดึง “คิมเบอร์ลี่” พรีเซ็นเตอร์ เจเล่ บิวตี้ หวังขยายฐานสู่กลุ่มแม่บ้าน จับกระแสสาวต้องการลดหุ่น หวังดันยอดขายเจเล่รวมสู่ 1,400 ล้านบาท รั้งยอดขายอันดับ 1 ให้บริษัทที่สัดส่วน 50%
นายสุรชัย จงเลิศวราวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เยลลีภายใต้แบรนด์ เจเล่ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเยลลีมูลค่า 1,600 ล้านบาท ทั้งปีนี้น่าจะเติบโตราว 6-7% ถือเป็นการเติบโตปกติ โดยการเติบโตจะมาจากกลุ่มเยลลีฟังก์ชันนัล
สำหรับเจเล่ถือเป็นผู้นำในตลาดเยลลี โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้กว่า 1,400 ล้านบาท
โตขึ้นราว 6-7% เช่นกัน มาจากฟังก์ชันนัลเยลลี กับเยลลีพร้อมดื่มแบรนด์ เจเล่บิวตี้ 500 ล้านบาท โตจากปีก่อน 15% และเยลลีแบบถ้วย กับแบรนด์เจเล่ไลท์ 900 ล้านบาท โต 5%
โดยในปีนี้บริษัทจะมุ่งให้ความสำคัญต่อเจเล่ บิวตี้ เป็นหลัก โดยใช้งบการตลาดรวมกว่า 70-80 ล้านบาท ล่าสุดใช้ 50 ล้านบาทสำหรับการทำตลาดในช่วงไตรมาสสามนี้ โดยการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนแรก คือ คิมเบอร์ลี่ ชูกระแสสาวรักสุขภาพ และควบคุมน้ำหนัก มั่นใจว่าจะเพิ่มฐานลูกค้าในกลุ่มแม่บ้านเข้ามาได้ จากปัจจุบันเจเล่ บิวตี้ จะจับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิงอายุ 15-29 ปี
“เดิมเจเล่ บิวตี้จะมีความเป็นเด็กวัยรุ่นค่อนข้างสูง การได้พรีเซ็นเตอร์คือคิมเบอร์ลี่ จะทำให้ภาพลักษณ์แบรนด์ขยับโตขึ้นอีกเล็กน้อย ดังนั้น แผนการทำตลาดจะมีทั้ง 2 ส่วน โดยกลุ่มวัยรุ่นจะเน้นออนไลน์เป็นหลัก ส่วนสาววัยทำงานจะเป็นอีเวนต์ออนกราวนด์ไปยังออฟฟิศบิลดิ้งมากขึ้น”
นอกจากใช้พรีเซ็นเตอร์แล้ว ในส่วนของผลิตภัณฑ์ยังมีการปรับแพกเกจจิ้งให้ดูเพรียวและทันสมัยมากขึ้น รวมถึงปรับสูตรรสชาติให้ตรงความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นด้วย โดยปัจจุบันมีอยู่ 7 รสชาติ วางจำหน่ายในราคา 10 บาท ทั้งนี้ ในปีหน้ายังเตรียมเปิดตัวไลน์สินค้าใหม่ในกลุ่มเยลลีเพิ่มด้วย โดยจะต้องดูสถานการณ์ทางการตลาดและความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก
นายสุรชัยกล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทมีแบรนด์สินค้าหลายรายการ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม และเยลลี ขณะที่เยลลีคือฐานรายได้หลักของบริษัทกว่า 50% รองลงมาคือกลุ่มขนม อย่างแบรนด์เบนโตะ และเครื่องดื่ม คือแบรนด์เมจิกฟาร์ม เป็นต้น ซึ่งภาพรวมรายได้บริษัทปีนี้มองว่าจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกับกลุ่มเยลลี คือไม่ต่ำกว่า 6-7%