“เคลียร์” ท้าชน “เบอร์กามอท” ลีเวอร์ลังเลต่อสัญญา “ณเดชน์”

ASTVผู้จัดการรายวัน - “ลีเวอร์” ทุ่ม 200 ล้านบาท ส่ง “เคลียร์โทนิค” ผลิตภัณฑ์ใหม่กระตุ้นยอดขายเคลียร์ หลังพบภาพรวมตลาดดูแลเส้นผมและหนังศีรษะเงียบลง ทั้งปีนี้น่าจะโตเพียง 5% พร้อมเคลียร์ “ณเดชน์” ยังคงรั้งตำแหน่งพรีเซ็นเตอร์ต่อ พร้อมหวังช่วยดึง 1% จากมูลค่าตลาด 15,000 ล้านบาท มาใช้สินค้าใหม่

น.ส.สุทิพา ปัญญามหาทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาตลาดผลิตภัณฑ์เส้นผม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทยเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดดูแลเส้นผมและหนังศีรษะมูลค่า 15,000 ล้านบาท ในปีก่อนมีการเติบโตกว่า 10% ส่วนไตรมาสแรกที่ผ่านมานี้พบว่าเติบโตเพียง 2-3 % ทั้งปีน่าจะโตได้เพียง 5% โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ตลาดเติบโตคือกลุ่มสินค้าที่ไม่ใช่แชมพู เช่น ลิฟท์ออน, เซรั่ม, สไตล์ลิ่ง เป็นต้น ที่มีสัดส่วนกว่า 30% ของมูลค่าตลาดรวมทั้งหมดและมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักทุกปี ขณะที่กลุ่มแชมพูเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการแข่งขันทางด้านราคารุนแรงขึ้น 

ในส่วนของเคลียร์ ปีนี้ยังคงให้ความสำคัญกับสูตรไอซ์คูลเมนทอล และล่าสุดยังได้เปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม คือ เคลียร์ เมน แอนตี้ แฮร์ฟอล สกาล์ปโทนิค ซึ่งเป็นโทนิคบำรุงผมและหนังศีรษะชนิดไม่ต้องล้างออก ช่วยปกป้องผมตั้งแต่โคนผม ป้องกันการหลุดร่วงของเส้นผม ถือเป็นการเปิดเซกเม้นท์สินค้าใหม่สู่ตลาด

จากปัจจุบันในตลาดนี้มีผู้เล่นอยู่แบรนด์เดียว คือ เบอร์กามอท ที่มีราคาจำหน่ายราว 400-500 บาทต่อขวด และมีมูลค่าตลาดเพียง 100 กว่าล้านบาทเท่านั้น ขณะที่เคลียร์โทนิค จะมีจำหน่าย 2 ขนาดหลัก คือ ราคา 299 บาท และ 199 บาท และพิเศษกับขนาดทดลองที่มีขายเฉพาะในเซเว่นอีเลฟเว่นเท่านั้นในราคา 20 บาทด้วย  

ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ ยังไม่ได้โฟกัสในแง่ยอดขาย เนื่องจากเป็นตลาดใหม่ เบื้องต้นตามแผนการดำเนินงานใน 3 ปีนี้จึงพร้อมงบการตลาดกว่า 200 ล้านบาทสำหรับสร้างตลาดและการรับรู้รวมถึงสร้างพฤติกรรมให้เกิดการใช้สินค้าดังกล่าวให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคให้มากที่สุด โดยอนาคตคาดหวังว่าจะมีผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวราว 1% ของภาพรวมตลาด 15,000 ล้านบาทได้

อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มแชมพูสำหรับผู้ชาย มีมูลค่าตลาดที่ 600 ล้านบาท ต่อปีเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% และในปีนี้น่าจะเติบโตในอัตราที่ใกล้เคียงกัน หรือพบว่าผู้ชายหันมาใช้แชมพูสำหรับผู้ชายมากขึ้นคิดเป็น 10% ของมูลค่าตลาดรวมทั้งหมด จากเดิมที่เริ่มตลาดเซกเม้นท์นี้ใช้เพียง 3% เท่านั้น โดยเคลียร์ถือเป็นผู้นำตลาดในเซกเม้นท์นี้

ส่วนภาพรวมตลาด 15,000 ล้านบาท สามารถแบ่งออกเป็น 2 เซกเมนต์หลัก คือ 1. กลุ่มบิวตี้ มีมูลค่า 6,900 ล้านบาท โต 9.4% 2. กลุ่มเฮลท์ มีมูลค่า 3,500 ล้านบาท โต 13% ซึ่งเคลียร์จัดอยู่ในกลุ่มที่สองนี้ 

น.ส.สุทิพากล่าวต่อว่า สำหรับเคลียร์โทนิค ยังคงใช้ ณเดชน์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งมีสัญญา 1 ปี ส่วนผลิตภัณฑ์เดิมนั้นจะต้องมีพูดคุยและเจรจากันต่อไปเพื่อเซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์อีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้ใกล้หมดเวลาในสัญญาการเป็นพรีเซ็นเตอร์ในสินค้าเดิมแล้ว