เทงบ 345 ล้านบาทหวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาด 32% ในปี 56 มุ่งเจาะตลาดผลิตภัณฑ์ ”Milk Range” ชูคุณภาพสินค้า-ขยายตลาดกลุ่มผู้ใหญ่ที่ชอบใช้สินค้าเด็ก เน้นใช้โซเชียลมีเดียทำตลาด หลังมีแฟนเพจถึง 2 แสนคน สูงสุดในกลุ่มสินค้าเด็ก ล่าสุดจัดแคมเปญ “กอด” ค้นหาผู้ชนะเลิศไปทัวร์นิวซีแลนด์
น.ส.จิตชญา ตู้จินดา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน คอนซูเมอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรวมของผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ ที่บริษัทดำเนินการผลิตและจำหน่าย ประกอบด้วย มอยซ์เจอร์ไรเซอร์สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ครีมล้างหน้า น้ำยาทำความสะอาดช่องปาก ผ้าอนามัย และยาพาราเซตามอล ในปี 2555 มีมูลค่าประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการดำเนินธุรกิจของบริษัทสามารถทำยอดขายได้ 6.6 พันล้านบาทจาก 10 แบรนด์หลัก โดยมีอัตราการเติบโตประมาณ 10% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าอัตราการเติบโตของตลาดโดยรวมที่อยู่ในระดับ 9.1%
จากยอดขายดังกล่าวแบ่งเป็นรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก หรือจอห์นสัน เบบี้ ประมาณ 2.3 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนรายได้จาก 8 ผลิตภัณฑ์หลัก ประกอบด้วย แป้งเด็ก ประมาณ 40% โลชั่น ออยล์ ครีม ประมาณ 35% ส่วนที่เหลือ 25% เป็นรายได้จากกลุ่มสินค้าประเภทครีมอาบน้ำ สบู่ก้อน แชมพู และกระดาษทำความสะอาด (Wipes) โดยคาดว่าในปี 2556 กลุ่มผลิตภัณฑ์จอห์นสัน เบบี้จะมีอัตราเติบโตขึ้น 10% และสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้เป็น 32% จากเดิมที่ทำได้ 31% ในปี 2555 และจะยังคงรักษาความเป็นผู้นำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กเช่นเดิม โดยอันดับรองลงไปยังคงมีส่วนแบ่งประมาณ 20%
“เป้าหมายการเติบโต 10% อาจจะไม่สูงมากนักแต่ก็นับเป็นสิ่งท้าทายไม่น้อย เมื่อเทียบกับอัตราการเกิดของเด็กไทยที่สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่าเริ่มลดน้อยลงเหลือเพียงปีละประมาณ 7-8 แสนคนอันเนื่องมากจากพฤติกรรมและทัศนคติของคนรุ่นใหม่ที่เริ่มต้องการมีบุตรน้อยลง ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงเน้นให้ความสำคัญด้านกลยุทธ์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์จอห์นสัน เบบี้ มากเป็นพิเศษ โดยตั้งงบประมาณการตลาดเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน คิดเป็นจำนวนเงิน 345 ล้านบาท”
สำหรับกลยุทธ์ตลาดหลักจะเน้น 2 ส่วนคือการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านคุณภาพสินค้าเด็กและขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังผู้ใหญ่ที่ชื่นชอบและใช้สินค้าเด็กซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและถือเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันการเติบโตของตลาดให้สูงขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของผลิตภัณฑ์นม (Milk Range) ส่วนช่องทางการตลาดที่บริษัทให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้นคือช่องทางออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดีย
จากผลสำรวจที่ระบุว่าปัจจุบันคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตมากถึง 18 ล้านคน โดยเฉพาะในส่วนของเฟซบุคซึ่งมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากถึง 1 ใน 3 ของจำนวนผู้ใช้ทั้งหมดนั้น บริษัทยังพบว่าปัจจุบันมีคุณแม่ยุคใหม่เริ่มใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นคว้าหาความรู้เกี่ยวกับการดูแลบุตรเพิ่มมากขึ้น ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือจำนวนสมาชิกเฟซบุคของบริษัทซึ่งมีเป็นจำนวนถึง 2 แสนคน ถือเป็นจำนวนสูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เด็ก เนื่องจากลำดับรองลงไปยังอยู่ในระดับหลักหมื่น หรือแสนต้นๆ เท่านั้น
“แม้อัตราเกิดของเด็กใหม่จะลดน้อยลง แต่ในส่วนของพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคยังคงมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความจำเป็นและผู้บริโภคโดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่จะให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพมาก เนื่องจากมีความรู้สูงขึ้นและไม่ได้ใช้ราคาเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทก็ได้รับการยอมรับในเรื่องของคุณภาพมาตลอด”
ล่าสุดบริษัทใช้งบประมาณ 40 ล้านบาทจัดแคมเปญ “กอด” กับ “จอห์นสัน เบบี้ มิลค์” ซึ่งจะมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย พร้อมเปิดตัวพรีเซนเตอร์แม่ลูกคนดัง “กบ-สุวนันท์” และ “น้อง ณดา ปุณณกันต์” ในวันเสาร์ที่ 18 พ.ค.ศกนี้ ณ ลานลิฟต์แก้ว ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยคาดว่าจะกระตุ้นให้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Milk Range มีอัตราการเติบโตขึ้น 15%
แคมเปญ “กอด” กับ “จอห์นสัน เบบี้ มิลค์” ยังเปิดโอกาสให้ครอบครัวถ่ายภาพกอดกันมาร่วมประกวดเพื่อคัดเลือกผู้ชนะเลิศเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นจำนวน 5 วัน 3 คืน จำนวน 1 รางวัล และเดินทางไปพักที่ฟาร์มโชคชัย จ.สระบุรี เป็นจำนวน 3 วัน 2 คืน ผู้สนใจสามารถส่งภาพถ่ายเข้าประกวดได้ถึงวันที่ 30 มิ.ย.56 ติดตามรายละเอียดได้ทาง https://www.facebook.com/JohnsonsBabyClub