“พาณิชย์” รับลูก สคบ.ตรวจสอบตั๋วหนังและค่าอาหาร-เครื่องดื่มในโรงหนังแพงเกินจริง เผยหากค้ากำไรเกินควรเตรียมเสนอ กกร.บรรจุเป็นบริการควบคุมก่อนออกมาตรการดูแล
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ขอให้กรมการค้าภายในศึกษาโครงสร้างต้นทุนบัตรชมภาพยนตร์ และราคาอาหาร-เครื่องดื่มที่ขายในโรงภาพยนตร์นั้น กรมการค้าภายในต้องรอหนังสือจาก สคบ.อย่างเป็นทางการก่อนเพื่อนำรายละเอียดการร้องเรียนมาศึกษาโครงสร้างต้นทุน หากการศึกษาโครงสร้างแล้วเห็นว่าผู้ให้บริการโรงภาพยนตร์มีการคิดค่าบัตรและราคาสินค้าสูงเกินจริง จะนำเรื่องเสนอคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่มี รมว.พาณิชย์เป็นประธานพิจารณา หาก กกร.เห็นชอบให้นำธุรกิจโรงภาพยนตร์เข้ามาอยู่ในบัญชีบริการควบคุม ก็จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบอีกครั้ง หลังจากนั้นถึงจะใช้มาตรการกฎหมายดูแลราคาบริการภายในโรงภาพยนตร์ให้เหมาะสมได้
“หากกำหนดราคาที่เหมาะสม มีการปิดป้ายแสดงราคาชัดเจนก็ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการกฎหมายเข้าไปดูแลเพราะเป็นบริการทางเลือก แต่หากกำหนดราคาสูงเกินความเป็นจริงมากจนมีการร้องเรียนเข้ามามาก ก็สามารถใช้กฎหมายจัดการได้” รายงานข่าวระบุ
สำหรับการร้องเรียนค่าตั๋วหนังแพงและอาหาร-เครื่องดื่มแพง เนื่องจาก สคบ.ได้ประชุมร่วมกับผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์เกี่ยวกับข้อร้องเรียนจากผู้บริโภคว่ามีการกำหนดราคาตั๋วชมภาพยนตร์แพงเกินจริง และมีการขายเครื่องดื่มและของขบเคี้ยวเกินราคามาก โดยที่ประชุมได้ขอให้กรมการค้าภายใน ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการตรวจสอบราคาสินค้าเข้าไปตรวจสอบต้นทุนที่แท้จริงว่าผู้ประกอบการมีการค้ากำไรเกินควรหรือไม่ รวมทั้งให้ติดประกาศราคาชมภาพยนตร์แต่ละเรื่องแต่ละรอบให้ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนของผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ได้ให้เหตุผลของการกำหนดราคาตั๋วชมภาพยนตร์แพง เนื่องจากเจ้าของค่ายหนังคิดค่าลิขสิทธิ์แพงทำให้ต้องกำหนดราคาตั๋วแพงตามไปด้วย ส่วนการขายข้าวโพดคั่วหรือป็อปคอร์นแพงเพราะเป็นข้าวโพดนำเข้าจากต่างประเทศ และการไม่อนุญาตให้นำอาหารหรือเครื่องดื่มเข้าไปในโรงหนังก็เหมือนกับร้านอาหารที่มีกฎไม่ให้ลูกค้าเอาอาหารจากที่อื่นเข้ามารับประทานในร้าน
