ASTVผู้จัดการรายวัน - สหวิริยาสตีลฯ ตั้งเป้าปีนี้รายได้แตะ 8 หมื่นล้านบาททุบสถิติสูงสุด มั่นใจครึ่งปีหลังนี้ฟื้นตัวมีกำไรสุทธิอีกครั้ง หลังจากโครงการลดต้นทุนการผลิตของโรงถลุงอังกฤษแล้วเสร็จ เผยไตรมาส 2 นี้ยอดขายเหล็กแผ่นรีดร้อนฯ วูบ 30% ส่วนแผนลดหุ้นในโรงถลุงเหล็กที่อังกฤษเลื่อนไปก่อน รอจังหวะให้บริษัทฯ แข็งแกร่งขึ้น
นายวิน วิริยประไพกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) (SSI) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขายรวมอยู่ที่ 8 หมื่นล้านบาท ดีกว่าปีก่อนที่มียอดขายประมาณ 6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากรับรู้รายได้จากโรงถลุงเหล็กที่อังกฤษที่คาดว่าจะผลิตเหล็กแท่งเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านตัน/ปี หรือคิดเป็น 80% ของกำลังผลิต โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าผลดำเนินงานบริษัทฯ จะกลับมามีกำไรสุทธิอีกครั้งในครึ่งปีหลังนี้
แม้ว่าไตรมาส 2/2556 บริษัทฯ จะยังมีผลขาดทุนสุทธิต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2556 ที่ขาดทุน 778 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาว และยอดขายเหล็กลดลงเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน เนื่องจากผู้ใช้ลดปริมาณสินค้าคงคลังลง ทำให้ปริมาณเหล็กในตลาดหายไป ทำให้ยอดขายเหล็กแผ่นรีดร้อนลดลง 30% จากไตรมาสแรกปีนี้ที่มีปริมาณการขายเหล็กแผ่นรีดร้อนอยู่ 7.7 แสนตัน และโรงถลุงเหล็กที่อังกฤษยังขาดทุนอยู่
อย่างไรก็ตาม ผลดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 3 นี้จะดีขึ้นอย่างเด่นชัดเนื่องจากโครงการลดต้นทุนเชื้อเพลิง (PCI) 1 ของโรงถลุงเหล็กที่อังกฤษจะแล้วเสร็จ ทำให้ต้นทุนการผลิตเหล็กแท่ง (สแลป) ลดลงมา ทำให้มาร์จิ้นดีขึ้น อีกทั้งราคาแร่เหล็กก็อ่อนตัวลงมา ทำให้มีมาร์จิ้นในการผลิตเหล็กสูงขึ้น มั่นใจว่าครึ่งปีหลังบริษัทฯ จะมีกำไรอย่างแน่นอน แต่ทั้งปี 2556 ยังไม่มั่นใจว่าบริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิหรือไม่
นอกจากนี้ เมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ความต้องการใช้เหล็กแผ่นรีดร้อนในอาเซียนจะโตยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสดีของบริษัทฯ ในการทำตลาดเหล็กแผ่นคุณภาพพิเศษ เนื่องจากมีความได้เปรียบด้านวัตถุดิบ (สแลป) ทำให้ควบคุมคุณภาพเหล็กแผ่นรีดร้อนได้ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ เป็นผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนรายใหญ่ที่สุดในอาเซียนอยู่แล้ว
นายวินกล่าวถึงแผนการลดสัดส่วนการถือหุ้นในโรงถลุงเหล็กที่อังกฤษว่า บริษัทฯ คงรอให้บริษัท SSI UK มีผลดำเนินงานที่ดีขึ้น ก่อนที่จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงจากปัจจุบันที่ถือหุ้นอยู่ 100% โดยยังไม่รีบร้อนที่จะขายหุ้นออกในช่วงนี้ พร้อมกับยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องหรือได้รับผลกระทบกรณีที่มีกระแสข่าวโรงถลุงที่อังกฤษประสบปัญหาการเงินถึงขั้นขายหุ้นหรือควบรวมกิจการกับผู้ผลิตเหล็กรายอื่นๆ
ผลดำเนินงานไตรมาส 1/2556 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 1.99 หมื่นล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์รายไตรมาส เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากไตรมาส 4/2555 และร้อยละ 27 จากงวดเดียวกันของปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 778 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 4/2555 ที่ขาดทุนสุทธิ 3.25 พันล้านบาท โดยไตรมาสนี้บริษัทฯ มีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยจ่ายและค่าเสื่อม (EBITDA) เป็นบวก 800 ล้านบาท หลังจากที่ EBITDA ติดลบติดต่อกันมา 7 ไตรมาส