xs
xsm
sm
md
lg

“SSI” คาดเริ่มฟื้นตัวใน Q1 ปีหน้า เหตุปัจจัยหนุนในประเทศหดตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สหวิริยาสตีลอินดัสตรี” คาดธุรกิจถลุงเหล็กเริ่มฟื้นตัวในปีหน้า เหตุปัจจัยหนุนจากภาครัฐชะลอตัว เตรียมลงทุนเทคโนโลยี Pulverised Coal Injection หรือ PCI มาใช้เพิ่มลดต้นทุน และเพิ่มยอดการผลิต คาดรายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นล้านบาท

นายวิน วิริยประไพกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สหวิริยาสตีล อินดัสตรี หรือ SSI กล่าวว่า ภาพรวมการผลิตเหล็กในตลาดโลกคาดว่าจะเริ่มทรงตัวจากไตรมาส 2 ที่มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาคของโลก ทั้งจีน ยุโรป และอเมริกาใต้ แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องจับตาสถานการณ์ภาคการผลิต กลุ่มธุรกิจอสังหาฯ และอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ที่หากส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนจะเป็นปัจจัยหนุนให้ปริมาณการผลิตในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาแนวโน้มเศรษฐกิจของจีนที่เป็นผู้นำเข้าสำคัญว่าจะเติบโตสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนหรือไม่ ทั้งนี้ ประเมินว่า GDP ของจีนในไตรมาส 3 จะเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 7.8% โดยราคาเหล็กในไตรมาส 3 อาจจะปรับราคาลดลงเล็กน้อยในช่วงของต้นไตรมาส และจะปรับตัวดีขึ้นในปลายไตรมาสที่ 4 ซึ่งการเปรียบเทียบจากกรอบราคาสินแร่เฉลี่ยที่ 126-128 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่วนราคาเหล็กแท่งแบน และเหล็กแผ่นรีดร้อน จะอยู่ที่ 465-475 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน และ 533-563 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ตามลำดับ 
 
สำหรับตลาดเหล็กภายในประเทศนั้น ขณะนี้ยังอยู่ในภาวะทรงตัว เนื่องจากภาคการส่งออกยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ประกอบกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ลดลง แต่ทั้งนี้ ยังมีอานิสงส์จากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ปรับตัวดีขึ้น โดยกำลังการผลิตคาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติ

อย่างไรก็ดี คาดว่าปริมาณการผลิตเหล็กรีดร้อนชนิดม้วนจะอยู่ที่ 1.85 ล้านตัน ลดลง 1.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่ปริมาณการผลิตทั้งปีจะเพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ 7.7 ล้านตัน  โดยบริษัทฯ คาดว่าปริมาณการขายจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และราคาจะกลับมาดีขึ้น และทำให้เป้าการเติบโตของแผ่นเหล็ดรีดร้อนจะขยับขึ้นที่ 14-16% ส่วนกิจการถลุงเหล็กของบริษัทในประเทศอังกฤษนั้น คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจในยูโรโซนที่เริ่มฟื้นตัว และยอดสั่งซื้อจากแอตแลนติกที่เพิ่มเข้ามา ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยจะลดลง 10% จากไตรมาสก่อน ทำให้เป้าการเติบโตของเหล็กแท่งแบนอยู่ที่ 19-21% โดยบริษัทมีมาร์เกตแชร์อยู่ที่ 30% ของอุตสาหกรรมโรงถลุงเหล็ก

“บริษัทได้ปรับปรุงโรงถลุงเหล็กในประเทศอังกฤษ โดยนำเทคโนโลยี Pulverised Coal Injection หรือ PCI มาใช้เพื่อลดต้นทุนการผลิต และทำให้ปริมาณการผลิตในโรงถลุงเหล็กเพิ่มสูงขึ้น ช่วยลดต้นทุนการผลิต และจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตจากเดิมเฉลี่ยอยู่ที่ 8,000 ตันต่อวัน เป็น 10,000 ตันต่อวัน ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มียอดขายเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 2 ล้านตัน ซึ่งโครงการเทคโนโลยี PCI ที่คืบหน้าไปแล้ว 96% โดยเดินเครื่องไปบางส่วนแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคม คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนหน้า”

ทั้งนี้ คาดว่ารายได้ทั้งปีของบริษัทฯจะอยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 7 หมื่นล้านบาท และสัดส่วนการส่งออกในไตรมาส 3 จะเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 30% เป็น 50%
กำลังโหลดความคิดเห็น