“ไทยพาณิชย์” ยันสหวิริยาไม่มีปัญหาเพิ่ม อยู่ระหว่างปรับปรุงการผลิตตามแผนลดต้นทุน 20% คาดสิ้นปีนี้กลับเข้าสู่กลุ่มลูกหนี้ปกติได้
นายอาทิตย์ นันทวิทยา รองผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) เปิดเผยถึงกรณีปัญหาในการดำเนินธุรกิจของบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) (SSI) ซึ่งเป็นลูกหนี้ของธนาคารว่า ปัจจุบัน บริษัทสหวิริยายังคงชำระหนี้กับธนาคารอย่างเป็นปกติ ไม่ได้มีปัญหา หรือหยุดการชำระเงินกู้แต่อย่างใด และยังไม่มีความจำเป็นจะต้องหารือในการปรับโครงสร้างหนี้ใดๆ เพิ่มเติมในขณะนี้
ทั้งนี้ เท่าที่ธนาคารติดตามความคืบหน้าของบริษัท ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผนปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งหากเป็นไปตามแผนแล้ว จะทำสามารถลดต้นทุนลงได้ถึง 20% ซึ่งก็จะทำให้บริษัทมีสภาพคล่อง และกลับเข้าสู่กลุ่มลูกหนี้ปกติของธนาคารได้ โดยคาดว่าในสิ้นปีนี้น่าจะรู้ผลว่าขับเคลื่อนไปได้ตามแผนหรือไม่
“เรื่องติดตามเราก็ติดตามดูอยู่ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเพิ่มเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นยืดหนี้ ยืดระยะเวลา เพราะได้ผ่านขั้นตอนตรงนั้นมาหมดแล้ว และปัจจุบัน เขาก็ยังมีการชำระหนี้ปกติ ตอนนี้ก็เป็นเรื่องการปรับปรุงในทางเทคนิค หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน ก็ Run ได้ แล้วระบบสภาพคล่องต่างๆก็จะดี สหวิริยาก็จะกลับเข้าสู่กลุ่มลูกค้าปกติซึ่งสิ้นปีน่าจะรู้”
ส่วนกรณีของสหฟาร์มนั้น ไม่กระทบต่อธนาคารแต่อย่างใด เป็นวงเงินกู้ที่นานมาแล้ว และธนาคารก็ได้ตัดตั้งสำรองไปหมดแล้ว ปัจจุบันไม่น่าที่จะมีการปล่อยกู้เพิ่มเติมแล้ว ดังนั้น ปัญหาเรื่องขาดสภาพคล่องของสหฟาร์มจึงไม่กระทบต่อหนี้ของธนาคารแต่อย่างใด
นายอาทิตย์ นันทวิทยา รองผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) เปิดเผยถึงกรณีปัญหาในการดำเนินธุรกิจของบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) (SSI) ซึ่งเป็นลูกหนี้ของธนาคารว่า ปัจจุบัน บริษัทสหวิริยายังคงชำระหนี้กับธนาคารอย่างเป็นปกติ ไม่ได้มีปัญหา หรือหยุดการชำระเงินกู้แต่อย่างใด และยังไม่มีความจำเป็นจะต้องหารือในการปรับโครงสร้างหนี้ใดๆ เพิ่มเติมในขณะนี้
ทั้งนี้ เท่าที่ธนาคารติดตามความคืบหน้าของบริษัท ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผนปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งหากเป็นไปตามแผนแล้ว จะทำสามารถลดต้นทุนลงได้ถึง 20% ซึ่งก็จะทำให้บริษัทมีสภาพคล่อง และกลับเข้าสู่กลุ่มลูกหนี้ปกติของธนาคารได้ โดยคาดว่าในสิ้นปีนี้น่าจะรู้ผลว่าขับเคลื่อนไปได้ตามแผนหรือไม่
“เรื่องติดตามเราก็ติดตามดูอยู่ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเพิ่มเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นยืดหนี้ ยืดระยะเวลา เพราะได้ผ่านขั้นตอนตรงนั้นมาหมดแล้ว และปัจจุบัน เขาก็ยังมีการชำระหนี้ปกติ ตอนนี้ก็เป็นเรื่องการปรับปรุงในทางเทคนิค หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน ก็ Run ได้ แล้วระบบสภาพคล่องต่างๆก็จะดี สหวิริยาก็จะกลับเข้าสู่กลุ่มลูกค้าปกติซึ่งสิ้นปีน่าจะรู้”
ส่วนกรณีของสหฟาร์มนั้น ไม่กระทบต่อธนาคารแต่อย่างใด เป็นวงเงินกู้ที่นานมาแล้ว และธนาคารก็ได้ตัดตั้งสำรองไปหมดแล้ว ปัจจุบันไม่น่าที่จะมีการปล่อยกู้เพิ่มเติมแล้ว ดังนั้น ปัญหาเรื่องขาดสภาพคล่องของสหฟาร์มจึงไม่กระทบต่อหนี้ของธนาคารแต่อย่างใด
