ฟิลิปส์เปิดศึกหลอดไฟแอลอีดี จัดหนักดัมป์ราคาลง 50% ทั่วโลก หวังกระตุ้นกลุ่มโฮมยูสหันมาใช้มากขึ้น หลังยอดขายกลุ่มโปรเจกต์ทั่วโลกโตกว่า 35% ส่วนไทยมั่นใจรั้งบัลลังก์ผู้นำด้วยยอดขายโตกว่าตลาดด้วยตัวเลขไม่ต่ำกว่า 2 หลัก
นายธนากร วงศ์วิเศษ ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2555 ที่ผ่านมาฟิลิปส์ทั่วโลกมียอดขายไม่ต่ำกว่า 24,800 ล้านยูโร หรือคิดเป็น 960,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง 8,442 ล้านยูโร กลุ่มธุรกิจเพื่อการแพทย์และการดูแลสุขภาพ 9,983 ล้านยูโร และกลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ 5,953 ล้านยูโร
ในส่วนของธุรกิจไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง พบว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมากลุ่มหลอดไฟแอลอีดีมีอัตราการเติบโตสูงมาก โดยในปีที่ผ่านมาจนถึงไตรมาสหนึ่งของปีนี้มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 35% ส่งผลให้ในปีนี้ทางฟิลิปส์จึงมีนโยบายการปรับลดราคาหลอดไฟแอลอีดีลงมามากกว่า 50% ทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 40 รายการ เช่น หลอดไฟแอลอีดีขนาด 5 วัตต์ จากเดิมปีที่ผ่านมามีราคา 450 บาท ปีนี้ลดเหลือ 199 บาท และขนาด 8 วัตต์ จากเดิมราคา 500 บาท ปีนี้ลดลงเหลือ 270 บาท เป็นต้น
การปรับลดราคาในครั้งนี้ถือเป็นนโยบายการปรับลดราคาสินค้าครั้งแรกของฟิลิปส์ เนื่องจากที่ผ่านมาสามารถจำหน่ายและผลิตสินค้าได้เป็นจำนวนมาก ทำให้ต้นทุนลดลง ส่งผลให้ทำได้ราคาถูกลงตามไปด้วย ส่วนสำคัญต้องการผลักดันให้ผู้บริโภคหันมาใช้หลอดไฟแอลอีดีมากขึ้น เพราะช่วยประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าหลอดตะเกียบและหลอดประหยัดไฟในปัจจุบัน
ซึ่งหลังจากปรับลดราคาลงแล้ว เฉลี่ยยังคงมีราคาที่สูงกว่าหลอดประหยัดไฟเพียง 20-40 บาทเท่านั้น อีกทั้งเชื่อมั่นว่าหลังจากฟิลิปส์ปรับลดราคาลงมา แบรนด์อื่นๆ ก็จะมีการปรับลดราคาตามลงด้วยเช่นกัน จากปกติต่อปีกลุ่มหลอดไฟแอลอีดีจะมีราคาถูกลงปีละ 10%
ในส่วนของประเทศไทย นโยบายการปรับลดราคาครั้งนี้จะส่งผลให้ลูกค้ากลุ่มโฮมยูสเติบโตขึ้นเป็นเท่าตัว จากเดิมลูกค้าหลักคือกลุ่มโปรเจกต์ โดยเฉพาะภาครัฐ ถึงสิ้นปีนี้เชื่อว่าจะส่งผลให้รายได้ในกลุ่มหลอดไฟแอลอีดีโตไม่ต่ำกว่า 2 หลัก หรือมากกว่าตลาด ขณะที่ภาพรวมตลาดหลอดไฟปีที่ผ่านมามีมูลค่า 8,200 ล้านบาท โดยแอลอีดีมีสัดส่วน 3% คาดว่าในปี 2557 ตลาดจะเพิ่มเป็น 10,000 ล้านบาท และแอลอีดีจะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 22%
ส่วนภาพรวมของตลาดแสงสว่างทั้งหมดนั้น ในปีที่ผ่านมามีมูลค่า 20,000 ล้านบาท ประกอบด้วย หลอดตะเกียบ หลอดประหยัดไฟ และแอลอีดี ชุดควบคุมหลอดไฟ และโคมไฟ เป็นต้น ในปี 2557 คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าตลาดเพิ่มเป็น 24,000 ล้านบาท โดยการเติบโตมาจากหลอดไฟแอลอีดี จากเดิมมีสัดส่วน 9% จะเพิ่มเป็น 31% ได้
นายธนากร วงศ์วิเศษ ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2555 ที่ผ่านมาฟิลิปส์ทั่วโลกมียอดขายไม่ต่ำกว่า 24,800 ล้านยูโร หรือคิดเป็น 960,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง 8,442 ล้านยูโร กลุ่มธุรกิจเพื่อการแพทย์และการดูแลสุขภาพ 9,983 ล้านยูโร และกลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ 5,953 ล้านยูโร
ในส่วนของธุรกิจไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง พบว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมากลุ่มหลอดไฟแอลอีดีมีอัตราการเติบโตสูงมาก โดยในปีที่ผ่านมาจนถึงไตรมาสหนึ่งของปีนี้มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 35% ส่งผลให้ในปีนี้ทางฟิลิปส์จึงมีนโยบายการปรับลดราคาหลอดไฟแอลอีดีลงมามากกว่า 50% ทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 40 รายการ เช่น หลอดไฟแอลอีดีขนาด 5 วัตต์ จากเดิมปีที่ผ่านมามีราคา 450 บาท ปีนี้ลดเหลือ 199 บาท และขนาด 8 วัตต์ จากเดิมราคา 500 บาท ปีนี้ลดลงเหลือ 270 บาท เป็นต้น
การปรับลดราคาในครั้งนี้ถือเป็นนโยบายการปรับลดราคาสินค้าครั้งแรกของฟิลิปส์ เนื่องจากที่ผ่านมาสามารถจำหน่ายและผลิตสินค้าได้เป็นจำนวนมาก ทำให้ต้นทุนลดลง ส่งผลให้ทำได้ราคาถูกลงตามไปด้วย ส่วนสำคัญต้องการผลักดันให้ผู้บริโภคหันมาใช้หลอดไฟแอลอีดีมากขึ้น เพราะช่วยประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าหลอดตะเกียบและหลอดประหยัดไฟในปัจจุบัน
ซึ่งหลังจากปรับลดราคาลงแล้ว เฉลี่ยยังคงมีราคาที่สูงกว่าหลอดประหยัดไฟเพียง 20-40 บาทเท่านั้น อีกทั้งเชื่อมั่นว่าหลังจากฟิลิปส์ปรับลดราคาลงมา แบรนด์อื่นๆ ก็จะมีการปรับลดราคาตามลงด้วยเช่นกัน จากปกติต่อปีกลุ่มหลอดไฟแอลอีดีจะมีราคาถูกลงปีละ 10%
ในส่วนของประเทศไทย นโยบายการปรับลดราคาครั้งนี้จะส่งผลให้ลูกค้ากลุ่มโฮมยูสเติบโตขึ้นเป็นเท่าตัว จากเดิมลูกค้าหลักคือกลุ่มโปรเจกต์ โดยเฉพาะภาครัฐ ถึงสิ้นปีนี้เชื่อว่าจะส่งผลให้รายได้ในกลุ่มหลอดไฟแอลอีดีโตไม่ต่ำกว่า 2 หลัก หรือมากกว่าตลาด ขณะที่ภาพรวมตลาดหลอดไฟปีที่ผ่านมามีมูลค่า 8,200 ล้านบาท โดยแอลอีดีมีสัดส่วน 3% คาดว่าในปี 2557 ตลาดจะเพิ่มเป็น 10,000 ล้านบาท และแอลอีดีจะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 22%
ส่วนภาพรวมของตลาดแสงสว่างทั้งหมดนั้น ในปีที่ผ่านมามีมูลค่า 20,000 ล้านบาท ประกอบด้วย หลอดตะเกียบ หลอดประหยัดไฟ และแอลอีดี ชุดควบคุมหลอดไฟ และโคมไฟ เป็นต้น ในปี 2557 คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าตลาดเพิ่มเป็น 24,000 ล้านบาท โดยการเติบโตมาจากหลอดไฟแอลอีดี จากเดิมมีสัดส่วน 9% จะเพิ่มเป็น 31% ได้
