“ธีระมงคลอุตสาหกรรม” รุกเดินหน้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดหลอดไฟ มั่นใจรายได้ปีนี้ และปี 2556 เติบโตต่อเนื่องปีละ 30% จากกำลังผลิตโรงงานใหม่ที่แล้วเสร็จ และเริ่มเดินเครื่องในปีหน้า และจากยอดขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ผู้บริหารยอมรับสนใจเข้าลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังอยู่ในช่วงการศึกษา ยืนยันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน
นายธีระชัย ประสิทธิรัตนพร ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคลอุตสาหกรรม (TMI) เปิดเผยว่า ภาพรวมปีนี้บริษัทมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมาย 30% หรือมีรายได้ประมาณ 400-500 ล้านบาท ซึ่งอัตราการเติบโตดังกล่าวจะส่งให้กำไรสุทธิของ TMI ปรับตัวเพิ่มขึ้นในระดับเดียวกัน โดยเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น และบริษัทยังสามารถลดต้นทุนลงได้อีกประมาณ 2-3% ทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 7% จาก 5% ในปี 2554
ขณะเดียวกัน บริษัทเชื่อว่าจะรักษาความสามารถในการเติบโตของรายได้ในระดับ 30% ต่อเนื่องจนถึงปี 2556 ได้เนื่องจากโรงงานใหม่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และจะดำเนินการผลิตในปีหน้าทันที ทำให้ TMI มีกำลังการผลิตโคมไฟเพิ่มขึ้น 1 แสนชิ้นต่อเดือน และการผลิตหลอดไฟเพิ่มขึ้น 9 แสนชิ้นต่อเดือน จึงคาดหวังว่าในระยะ 3 ปีข้างหน้าจากนี้ หรือปี 2558 รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการเข้าไปร่วมลงทุนในตลาดต่างประเทศเช่น พม่า ลาว เขมร จากปัจจุบันเป็นเพียงส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายเท่านั้น เนื่องจากประเมินว่า เป็นตลาดที่มีแนวโน้มการขยายตัวในระดับสูง และหากจะให้ได้ต้นทุนในระดับต่ำ ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาข้อมูล และผู้ร่วมลงทุน แต่มองว่ายังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไร อย่างไรก็ตาม ภายใน 1-2 ปีนี้ TMI ยังมุ่งเน้นพยายามส่วนแบ่งในส่วนธุรกิจหลอดไฟ เพื่อให้มีส่วนแบ่งเป็นไปตามเป้าหมาย
นายธีระชัย ประสิทธิรัตนพร ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคลอุตสาหกรรม (TMI) เปิดเผยว่า ภาพรวมปีนี้บริษัทมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมาย 30% หรือมีรายได้ประมาณ 400-500 ล้านบาท ซึ่งอัตราการเติบโตดังกล่าวจะส่งให้กำไรสุทธิของ TMI ปรับตัวเพิ่มขึ้นในระดับเดียวกัน โดยเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น และบริษัทยังสามารถลดต้นทุนลงได้อีกประมาณ 2-3% ทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 7% จาก 5% ในปี 2554
ขณะเดียวกัน บริษัทเชื่อว่าจะรักษาความสามารถในการเติบโตของรายได้ในระดับ 30% ต่อเนื่องจนถึงปี 2556 ได้เนื่องจากโรงงานใหม่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และจะดำเนินการผลิตในปีหน้าทันที ทำให้ TMI มีกำลังการผลิตโคมไฟเพิ่มขึ้น 1 แสนชิ้นต่อเดือน และการผลิตหลอดไฟเพิ่มขึ้น 9 แสนชิ้นต่อเดือน จึงคาดหวังว่าในระยะ 3 ปีข้างหน้าจากนี้ หรือปี 2558 รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการเข้าไปร่วมลงทุนในตลาดต่างประเทศเช่น พม่า ลาว เขมร จากปัจจุบันเป็นเพียงส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายเท่านั้น เนื่องจากประเมินว่า เป็นตลาดที่มีแนวโน้มการขยายตัวในระดับสูง และหากจะให้ได้ต้นทุนในระดับต่ำ ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาข้อมูล และผู้ร่วมลงทุน แต่มองว่ายังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไร อย่างไรก็ตาม ภายใน 1-2 ปีนี้ TMI ยังมุ่งเน้นพยายามส่วนแบ่งในส่วนธุรกิจหลอดไฟ เพื่อให้มีส่วนแบ่งเป็นไปตามเป้าหมาย