เอเอฟพี - บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่สัญชาติดัตช์ ที่มีอายุยาวนานกว่า 120 ปีอย่าง "ฟิลิปส์" ได้ออกมาประกาศในวันนี้ (23 ก.ย.) ว่าจะแบ่งบริษัทออกเป็น 2 ส่วน โดยจะเอาธุรกิจดูแลสุขภาพ-ไลฟ์สไตล์ แยกออกมาจากธุรกิจอุปกรณ์ให้แสงสว่าง
"เรากำลังเตรียมการให้ฟิลิปส์พร้อมสำหรับศตวรรษหน้า" ฟรานซ์ แวน ฮูเตน ซีอีโอของบริษัท บอกในการแถลงข่าวผ่านทางโทรศัพท์
"การให้อิสระแก่ธุรกิจหลอดไฟ จะช่วยทำให้มีโอกาสขยายตัวได้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มโอกาสการลงทุนในตลาดที่ใกล้เคียงกัน ผมเข้าใจดีว่าการตัดสินใจครั้งนี้มันเป็นเรื่องใหญ่ขนาดไหน แต่นี่คือเวลาที่เหมาะสมแล้ว สำหรับก้าวต่อไปของฟิลิปส์" แวน ฮูเตน กล่าว
ราคาหุ้นของฟิลิปส์ ผู้คิดค้นแผ่นซีดี ได้เพิ่มขึ้น 3.26 เปอร์เซ็นต์ ไปอยู่ที่ราคา 24.27 ยูโรต่อหุ้น หลังการประกาศครั้งนี้ บรรดานักวิเคราะห์มองว่ามีความเป็นไปได้ที่ฟิลิปส์จะขายธุรกิจหลอดไฟทิ้ง หลังจากแยกส่วนบริษัทแล้ว
คำแถลงของฟิลิปส์ ระบุว่า ทั้งสองบริษัทจะยังคงใช้ชื่อฟิลิปส์ต่อไป พร้อมทั้งอธิบายเพิ่มเติมว่า ในปี 2013 ธุรกิจเทคโนโลยีดูแลสุขภาพนั้นมียอดขาย 15 พันล้านยูโร ส่วนธุรกิจหลอดไฟมียอดขาย 7 พันล้านยูโร
ทั้งนี้ รายละเอียดเกี่ยวกับการแยกธุรกิจหลอดไฟจะมีการประกาศอีกครั้งในปี 2015
คำแถลงของฟิลิปส์ ระบุว่า ทั้งสองบริษัทมีดีพอที่จะก่อให้เกิดการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มอัตราการเติบโตและสร้างผลกำไร ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ลูกค้า พนักงานและบรรดาผู้ถือหุ้น
แวน ฮูเตน ระบุว่า ทั้งสองบริษัทจะมีฐานอยู่ที่เนเธอร์แลนด์ แต่เขาบอกว่ายังเร็วไปที่จะพูดถึงเรื่องการเลิกจ้างพนักงานว่ามีจำนวนเท่าไหร่
ฟิลิปส์ เปิดเผยว่า ธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีดูแลสุขภาพของฟิลิปส์นั้นมีมูลค่ากว่า 100 พันล้านยูโร ส่วนธุรกิจหลอดไฟมีมูลค่ากว่า 60 พันล้านยูโร
โครงสร้างใหม่ที่เกิดจากการแยกส่วนบริษัทจะทำให้ฟิลิปส์ลดต้นทุนไปได้ประมาณ 100 ล้านยูโรในปี 2015 กับอีก 200 ล้านยูโรในปี 2016 แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างครั้งนี้ราวปีละ 50 ล้านยูโร ไปจนถึงปี 2016
จอส เวอร์สตีก นักวิเคราะห์จากธนาคารเอกชน ธีโอดอร์ กลิสเซน ระบุว่า ถือเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับการประกาศครั้งนี้ และก็สร้างความประหลาดใจมากด้วย
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจเป็นการเกริ่นนำก่อนที่จะมีการขายธุรกิจหลอดไฟของฟิลิปส์ ซึ่งเป็นธุรกิจแรกเริ่มของฟิลิปส์ที่ทำกันมาตั้งแต่ปี 1891 ในเมืองไอด์โฮเฟน
"นี่จะเป็นจุดจบของฟิลิปส์แบบที่เราเคยรู้จัก ทั้งสองบริษัทจะใช้ชื่อฟิลิปส์ก็จริง แต่คำถามคือมันจะนานแค่ไหน เรื่องนี้มันชัดเจนมากว่าการแยกบริษัทจะต้องลงเอยด้วยการมีเจ้าของคนละคนกัน" เวอร์สตีก บอกกับเอเอฟพี
เขาระบุว่า สุดท้ายฟิลิปส์จะต้องลงเอยด้วยการขายธุรกิจหลอดไฟ การประกาศแยกส่วนบริษัทเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งเท่านั้น
ฟิลิปส์เคยประกาศไว้เมื่อเดือนมิถุนายนว่า กำลังทำอีกบริษัทสำหรับธุรกิจแสงสว่าง ซึ่งอาจนำไปใช้ในรถยนต์หรือโทรศัพท์มือถือ โดยระบุว่า จะสามารถทำกำไรได้จากกระแสความต้องการพลังงานที่เปี่ยมประสิทธิภาพ
การประกาศแยกส่วนบริษัทครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจาก "ซีเมนส์" ยักษ์ใหญ่ธุรกิจวิศวกรรมและเทคโนโลยีสัญชาติเยอรมัน ได้แยกส่วนธุรกิจหลอดไฟ "ออสแรม" ในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว หลังจากประสบภาวะขาดทุนถึง 378 ล้านยูโรในปี 2012
ฟิลิปส์ ออสแรม และผู้นำตลาดหลอดไฟอีกรายอย่าง "เจเนรัล อิเล็กทริค" กำลังเผชิญหน้ากับคู่แข่งจากแดนกิมจิอย่างซัมซุงและแอลจี ขณะที่ตลาดกำลังเข้าสู่ยุคของหลอดไฟประหยัดพลังงานและหลอดแอลอีดี
ฟิลิปส์ เป็นชื่อที่คุ้นเคยกันดีในบรรดาครัวเรือนจากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งในช่วงปีหลังๆ ได้หันมาให้ความสำคัญกับธุรกิจเทคโนโลยีให้แสงสว่าง และเทคโนโลยีด้านการแพทย์ ที่มีผลกำไรดีและมีการแข่งขันที่ไม่ดุเดือดมากนัก
ปีที่แล้วฟิลิปส์ได้ประกาศขายธุรกิจในส่วนบันเทิง-ไลฟสไตล์ ซึ่งมีสินค้าจำพวกเครื่องเสียงสเตอริโอและเครื่องเล่นดีวีดี หลังจากที่ได้ขายธุรกิจผลิตทีวีที่มีผลประกอบการย่ำแย่ไปตั้งแต่ปี 2012
ฟิลิปส์ ก่อตั้งขึ้นในปี 1891 บริษัทมีพนักงานประมาณ 112,000 คนทั่วโลก
