“โอภาส” ฉลุยผ่านประเมินผลงานในตำแหน่ง ผอ.ขสมก.ปีสุดท้ายอยู่ครบเทอม 4 ปี ประธานบอร์ด ขสมก.เผยแม้คะแนนบางหัวข้อต่ำเกณฑ์แต่ภาพรวมเพิ่มขึ้นจากปีก่อน พร้อมสั่งทำแผนบริหารรถร่วมฯ จัดเข้าระบบหลังรับมอบเอ็นจีวี 3,183 คันเสนอบอร์ดครั้งหน้า ชี้รถ ขสมก.-รถร่วมเอกชนบริการต้องมาตรฐานเดียวกัน
นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งกรุงเทพ (บอร์ด ขสมก.) เปิดเผยภายหลังการประชุมวานนี้ (14 พ.ค.) ว่า ที่ประชุมรับทราบการประเมินผลการทำงานของนายโอภาส เพชรมุณี ผู้อำนวยการ ขสมก.ตามที่คณะกรรมการประเมินผลที่มี พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) เป็นประธาน โดยนายโอภาสได้คะแนนรวม 4.17 มากกว่าการประเมินครั้งที่ผ่านมาที่ได้ 3.7 โดยมีหัวข้อที่คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์คือ การจัดเก็บค่าตอบแทนตามเงื่อนไขของสัญญารถเอกชนร่วมบริการ ได้คะแนนเพียง 1.82 และโครงการจัดทำสัญญาให้บริษัทเอกชนเหมาซ่อมรถเก่าที่จอดค้างไว้เพื่อนำมาวิ่งให้บริการเป็นคู่สัญญากับ ขสมก.ได้ 1 คะแนน เป็นต้น ทั้งนี้ นายโอภาสจะได้รับค่าตอบแทนรายเดือนเพิ่มประมาณ 10% และได้รับโบนัสประจำปีเพิ่มจากประมาณ 4 แสนบาทต่อปี เป็น 5 แสนบาทต่อปี
นอกจากนี้ ที่ประชุมบอร์ดได้มอบหมายให้ ขสมก.ทำแผนการบริหารจัดการรถร่วมเอกชน ในเรื่องการเดินรถหลังจากที่ ขสมก.มีรถเมล์เอ็นจีวี 3,183 คันเข้ามาให้บริการเพื่อจัดระบบการให้บริการรถเมล์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานเดียวกันทั้งหมดซึ่งจะต้องหาแนวทางแก้ปัญหาของรถร่วมฯ ทั้งหมด เช่น หนี้ค้างชำระจะผ่อนผันอย่างไร ค่าเที่ยววิ่งต่อวันต่อคันจะผ่อนผันหรือจะปรับลดลงจากปัจจุบันที่เก็บรถร้อน 35 บาทต่อคันต่อวัน รถปรับอากาศ 60 บาทต่อคันต่อวันได้หรือไม่, การจัดเส้นทางวิ่งของรถร่วมฯ จะให้วิ่งเส้นทางเดิมหรือปรับใหม่หรือจ้างวิ่งแบบ PBC โดยให้เสนอบอร์ดในการประชุมครั้งหน้า
รายงานข่าวแจ้งว่า ผลประเมินการทำงานของนายโอภาสที่ได้คะแนนเพิ่มขึ้นในครั้งนี้อาจจะมีผลต่อการพิจารณาเรื่องการต่อสัญญาว่าจ้าง ที่นายโอภาสจะครบ 4 ปีในเดือนธันวาคม 2556 นี้ได้ โดยบอร์ดมีอำนาจในการพิจารณาว่าจะต่อสัญญาจ้าง หรือจะเปิดสรรหาใหม่ อย่างไรก็ตาม จะต้องขึ้นอยู่กับนโยบายทางการเมืองด้วย