“พาณิชย์” นัดถกผู้ค้าก๊าซ-ปตท.หารือแผนรับมือปรับราคาก๊าซหุงต้ม 1 มิ.ย.นี้ หวั่นพ่อค้ามั่วนิ่มขึ้นค่าขนส่งจนประชาชนเดือดร้อน ย้ำราคาถัง 15 กก.ไม่ควรเกิน 300 บาท ส่วนผลวิเคราะห์อาหารปรุงสำเร็จจากการขึ้นราคาก๊าซหุงต้มและต้นทุนวัตถุดิบอื่นๆ กระทบเล็กน้อย ติงอย่ามั่วนิ่มขึ้นทีละ 5 บาทเจอเล่นงานแน่
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้กรมฯ จะเชิญร้านค้าก๊าซหุงต้ม และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มาหารือถึงสถานการณ์ราคาก๊าซหุงต้มหลังจากที่รัฐบาลมีแผนจะปรับขึ้นราคาจำหน่ายกิโลกรัม (กก.) ละ 50 สตางค์ทุก 1 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2556 เป็นต้นไป รวมทั้งแนวโน้มการคิดค่าขนส่งก๊าซหุงต้มที่เหมาะสม เพราะเริ่มได้รับการร้องเรียนว่ามีร้านค้าบางรายปรับราคาค่าขนส่งขึ้นมากกว่าที่เคยได้มีการตกลงกันไว้
ทั้งนี้ จากการประเมินของกรมฯ หลังปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม ประชาชนจะจ่ายค่าก๊าซหุงต้มถัง 15 กก.ไม่เกินถังละ 300 บาท โดยแยกเป็นต้นทุนราคาก๊าซหุงต้ม 275-285 บาท บวกราคาที่ปรับขึ้นถังละ 7.50 บาท และรวมค่าขนส่งที่ถังละ 10 บาทจะทำให้ราคาเพิ่มขึ้นเป็น 295-300 บาท/ถังเท่านั้น หากร้านค้าจำหน่ายสูงกว่าราคานี้จะถือเป็นการเอาเปรียบประชาชน
ส่วนผลกระทบการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มต่อผู้ประกอบการอาหารสำเร็จรูป พบว่าจะกระทบต่ออาหารสำเร็จรูปไม่เกินจานละ 50 สตางค์ หากคำนวณค่าแรงและอื่นๆ จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นไม่เกินจานละ 1-2 บาท หากผู้ประกอบการมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาก็ไม่ควรจะเกินไปกว่าราคาที่ได้มีการคำนวณไว้ ซึ่งถ้าพบมีการปรับราคาเกินไปจากนี้กรมฯ จะใช้ข้อกฎหมายดำเนินการทันที
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จจะไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มเพราะกระทรวงพลังงานมีมาตรการดูแลอยู่แล้ว โดยจะให้ผู้ค้าที่ได้ลงทะเบียนสามารถซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ในราคาเดิมเพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคา ซึ่งล่าสุดได้มีการลงทะเบียนแล้ว 1.3 แสนรายทั่วประเทศ จากเป้าที่ประเมินไว้ว่าจะมีจำนวน 5 แสนราย
ส่วนต้นทุนประกอบอาหารอื่นๆ ที่ขณะนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น กรมฯ ยืนยันว่าสถานการณ์ราคายังเป็นปกติ ไม่มีการปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด ส่วนการหาซื้อวัตถุดิบจากร้านถูกใจ ที่เดิมได้หมดอายุลงตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. 2556 ที่ผ่านมา แต่กรมฯ ได้ประสานให้ห้างแม็คโครเข้ามาช่วยดูแลต่อ โดยตั้งแต่สัปดาห์หน้าแม็คโครจะเป็นผู้ส่งสินค้าให้ร้านถูกใจที่ยังคงเหลืออยู่ 4,600 แห่ง ซึ่งสินค้าที่สามารถหาซื้อได้ในร้านถูกใจ ได้แก่ ข้าวสารถุง 5 กก. ถุงละ 70 บาท ผลิตและจัดส่งโดยองค์การคลังสินค้า (อคส.) น้ำมันพืชขวด 1 ลิตร ราคา 38 บาท ลดลงจากเดิมที่ขวดละ 40 บาท เป็นต้น