แนวโน้มราคาน้ำมันผันผวน “ไทยออยล์” แนะจับตาประชุมกลุ่มยูโรโซน และข่าวเพดานหนี้สหรัฐฯ พร้อมระบุเบรนต์เคลื่อนไหวในกรอบ 100-108 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 90-98 ดอลลาร์สหรัฐ
บมจ.ไทยออยล์ ประเมินแนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน (13-17 พ.ค. 56) ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้จะผันผวนตลอดทั้งสัปดาห์ คาดราคาน้ำมันดิบจะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบเดิมจากสัปดาห์ก่อน เบรนต์เคลื่อนไหวในกรอบ 100-108 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 90-98 ดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุจากตลาดจะต้องรอดูความคืบหน้าในหลายประเด็น ได้แก่ การประชุมกลุ่มยูโรโซน การเจรจาโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน การตกลงเรื่องเพดานหนี้สหรัฐฯ รายงานสถานการณ์น้ำมันของ IEA และตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะจีดีพีไตรมาส 1/56 ของหลายประเทศในยูโรโซนและญี่ปุ่น นอกจากนี้ เหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือยังคงสร้างความกังวลแก่นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ มีทั้งการประชุมกลุ่มยูโรโซน (Eurogroup Meeting) ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ซึ่งจะมีผู้นำและรัฐมนตรีการคลังเข้าร่วม ที่ประชุมจะมีมุมมองต่อทิศทางเศรษฐกิจและการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจอย่างไรหลังปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 0.75% เป็น 0.5% เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งต้องติดตามการเจรจาโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านที่จะจัดขึ้น 2 แห่งในวันที่ 15 พ.ค.นี้ โดยการประชุมแรกจะเป็นการเจรจาระหว่างสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) กับอิหร่าน ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ส่วนการประชุมถัดมาจะเป็นการเจรจาระหว่างหัวหน้าคณะผู้แทนจาก 6 ชาติมหาอำนาจกับอิหร่าน ณ กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี
สถานการณ์ความรุนแรงในซีเรีย ประเด็นการใช้อาวุธเคมียังไม่ได้ข้อสรุปว่าฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายผู้ต่อต้านเป็นผู้ใช้อาวุธดังกล่าว รวมทั้งติดตามปฏิกิริยาตอบโต้ของซีเรียและนานาชาติต่อการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ขณะที่อิสราเอลอ้างว่าเพื่อสกัดกั้นการขนถ่ายอาวุธจากอิหร่านไปยังกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ซึ่งเคยโจมตีตนในอดีต และต้องติดตามว่ารายงานสถานการณ์น้ำมันประจำเดือนเมษายนและรายงานประมาณการอุปสงค์อุปทานน้ำมันของโลกในระยะกลางของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) จะเป็นไปในทิศทางเดียวกับสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ที่ออกมาปรับลดความต้องการใช้น้ำมันโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาหรือไม่
การเจรจาระหว่างพรรคเดโมเครตกับพรรครีพับลิกันเรื่องการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ที่จะครบกำหนดในวันที่ 19 พ.ค.นี้ ว่าพรรครีพับลิกันจะสร้างเงื่อนไขในการตัดลดงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมเพื่อแลกเปลี่ยนกับการเพิ่มเพดานหนี้หรือไม่ หลังตัดลดงบประมาณรายจ่ายจำนวน 85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 1/56 ของประเทศในยูโรโซนและญี่ปุ่น การผลิตภาคอุตสาหกรรมของทั้งสหรัฐฯ ยูโรโซน และจีน รวมทั้งตัวเลขการขอสร้างบ้านใหม่ และความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ