ไทยเป็นเจ้าภาพถกคณะกรรมการร่วมด้านการค้าไทย-บังกลาเทศ ครั้งที่ 3 วันที่ 14-15 พ.ค.นี้ ตั้งเป้าเพิ่มการค้าเป็น 2 เท่าในปี 59 พร้อมขอให้ต่ออายุการซื้อข้าวนึ่งไทยไปอีก 3 ปี และลุยแก้ปัญหาอุปสรรคการค้า แนะไทยลงทุนในบังกลาเทศใช้สิทธิพิเศษทางภาษีส่งออกไปสหรัฐฯ และยุโรป
นางพิรมล เจริญเผ่า อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า วันที่ 14-15 พ.ค. 2556 ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านการค้า (JTC) ไทย-บังกลาเทศ ครั้งที่ 3 ขึ้น ณ โรงแรม Four Seasons กรุงเทพฯ ตามที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เห็นชอบร่วมกับบังกลาเทศให้จัดประชุม JTC เมื่อครั้งที่เดินทางไปเยือนอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือเพิ่มความร่วมมือทางด้านการค้า และแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าที่มีอยู่ให้หมดไป
“การประชุมครั้งนี้มีแผนที่จะผลักดันให้มูลค่าการค้าระหว่างกันขยายตัวเพิ่มเป็น 2 เท่าในปี 2559 โดยในปี 2555 มีมูลค่าการค้ารวมกัน 851.36 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปบังกลาเทศ 764.47 ล้านเหรียญสหรัฐ นำเข้าจากบังกลาเทศ 86.89 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันบังกลาเทศเป็นคู่ค้าลำดับที่ 51 ของไทย”
ทั้งนี้ ไทยจะเสนอให้บังกลาเทศมีการต่ออายุการซื้อขายข้าวนึ่งจากไทยอีก 3 ปี คือไปจนถึงปี 2559 และเสนอให้มีการอำนวยความสะดวกทางการค้าสินค้าและบริการระหว่างกัน พยายามลดความไม่สมดุลทางการค้าระหว่างกัน โดยเฉพาะการลดภาษีสินค้านำเข้าจากบังกลาเทศ การส่งเสริมและอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน รวมถึงเรื่องความร่วมมือระดับภูมิภาค เช่น BIMSTEC ซึ่งไทยจะขอให้บังกลาเทศช่วยผลักดันให้ศรีลังกาส่งตารางข้อผูกพันภายใต้ BIMSTEC โดยเร็ว
นางพิรมลกล่าวว่า บังกลาเทศเป็นตลาดที่มีศักยภาพที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับไทย ปัจจุบันนักธุรกิจไทยและบังกลาเทศได้ให้ความสนใจที่จะทำธุรกิจร่วมกันมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนจากไทยไปบังกลาเทศเนื่องจากค่าแรงที่ต่ำและได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีจากสหภาพยุโรป (อียู) และสหรัฐฯ ดังนั้นนักลงทุนไทยจึงสามารถใช้บังกลาเทศเป็นฐานผลิตส่งออกไปยังประเทศเหล่านี้ได้
ไทยและบังกลาเทศได้ลงนามความตกลงทางการค้า (Trade Agreement) เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2520 และได้มีการลงนามในบันทึกช่วยจำจัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านการค้าไทย-บังกลาเทศ (JTC) ในปี 2529 โดยที่ผ่านมามีการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านการค้าไทย-บังกลาเทศรวมทั้งสิ้น 2 ครั้ง ครั้งแรกในปี 2529 และครั้งที่ 2 ในปี 2532
