xs
xsm
sm
md
lg

เร่งรวม บ.แทปไลน์-FPT ลุยลงทุนท่อกดราคาน้ำมันต่างจังหวัดให้ต่ำลงสิ้นปีนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พงษ์ศักดิ์” สั่งเดินหน้ารวมบริษัทแทปไลน์-FPT และทำแผนลุยลงทุนระบบท่อน้ำมันใหม่ไปเหนือและอีสานให้เสร็จภายในสิ้นเดือน พ.ค. หวังทำโครงสร้างราคาน้ำมันหน้าคลังราคาเดียวทั่วประเทศเพื่อลดการขนส่งน้ำมันทางรถ ทำให้ประชาชนต่างจังหวัดได้ใช้น้ำมันถูกลงอย่างน้อย 20-30 สตางค์ต่อลิตรทันที คาดได้เห็นภายในสิ้นปีนี้ พร้อมเดินหน้าขายบี 7 วันที่ 1 ม.ค. 57


นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังาน (ธพ.) ไปร่วมหารือกับ บมจ.ปตท. ในการรวมบริษัทท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด (แทปไลน์) กับบริษัทขนส่งน้ำมันทางท่อ (FPT) และรูปแบบของการลงทุนระบบท่อน้ำมันใหม่ให้เสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ ตามนโยบายที่จะทำราคาน้ำมันหน้าคลังเป็นราคาเดียวทั่วประเทศเพื่อที่จะทำให้ประชาชนที่อยู่ห่างไกลได้ใช้น้ำมันราคาถูกลงจากการลดต้นทุนขนส่ง ซึ่งนโยบายดังกล่าวคาดว่าจะดำเนินการได้ภายในสิ้นปีนี้

ทั้งนี้ เบื้องต้นทาง บมจ.ปตท.ได้หารือร่วมกับผู้ถือหุ้นในแทปไลน์ (ปตท., เชฟรอน, เอสโซ่, เชลล์) กับผู้ถือหุ้น FPT (บ.เชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ บมจ.บางจาก) ทั้งหมดแล้ว และต่างเห็นร่วมกันถึงแนวทางดังกล่าว ส่วนรูปแบบของการรวมบริษัทและการลงทุนระบบท่อ ซึ่งตามแผนงานที่กระทรวงพลังงานกำหนดไว้เบื้องต้น คือ การต่อท่อจากแทปไลน์ จ.สระบุรี-พิษณุโลก-ลำปาง และจาก จ.สระบุรี-นครราชสีมา-ขอนแก่น วงเงินลงทุนเดิมประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท ส่วนการลงทุนที่สุดแล้วจะเป็นวงเงินเท่าใด หรืออาจจะมีการปรับปรุงแนวทางการลงทุนใหม่ก็ให้ไปสรุปมาให้ชัดเจน

“คงจะนำเสนอรูปแบบและการดำเนินงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้พิจารณาภายในเดือน พ.ค.นี้ได้ทัน เพราะเบื้องต้นมีแผนคร่าวๆ อยู่แล้ว ซึ่งการลงทุนท่อน้ำมันและคลังน้ำมันทำให้ราคาหน้าคลังเท่ากันเมื่อขนส่งทางรถไปปลายทางยังปั๊มก็จะลดลงจากปัจจุบัน โดยแผนเดิมที่คำนวณไว้อย่างน้อยราคาน้ำมันจะลดลงได้อีกอย่างน้อย 30-40 สตางค์ต่อลิตร” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว

พร้อมกันนี้ยังได้มอบหมายให้ บมจ.เร่งรัดการแยกบริษัทท่อส่งก๊าซธรรมชาติออกมาเพื่อเปิดให้ผู้สนใจทั่วไปได้ใช้บริการเพื่อลดการผูกขาดตามนโยบายรัฐบาลที่มีมติในเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่การแปรรูป อย่างไรก็ตาม ทั้งระบบท่อน้ำมันและระบบท่อก๊าซขอให้ทุกฝ่ายกำหนดแผนงานที่จะต้องสอดรับกับนโยบายการวางระบบโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาทของรัฐบาลไปด้วย และให้คำนึงถึงโอกาสการต่อท่อไปยังคลังน้ำมันและก๊าซฯ ชายแดนในการรับการเติบโตของเศรษฐกิจเพื่อนบ้านเมื่อก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ปี 2558

นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า กระทรวงพลังงานยังได้หารือร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ ผู้ค้ามาตรการ 7 ผู้ผลิตไบโอดีเซล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งทุกฝ่ายพร้อมที่จะผลักดันนโยบายการเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลจากปัจจุบันกำหนดสัดส่วนผสมบี 100 ในดีเซลไม่เกิน 5% (บี 5) เพิ่มเป็นไม่เกิน 7% หรือบี 7 โดยมีเป้าหมายดำเนินการให้ได้ภายในวันที่ 1 มกราคม 2557 ทั้งนี้เพื่อที่จะเป็นการดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มส่วนเกินที่เหลือจากการบริโภคนำมาผลิตเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง

ทั้งนี้ จากการหารือทางผู้ผลิตรถยนต์เองก็ยอมรับได้ในหลักการและพร้อมจะร่วมมือ แต่มีข้อเสนอแนะที่ต้องการให้ผู้ค้าน้ำมันได้ดูแลคุณภาพของบี 7 ที่ขณะนี้ผู้ผลิตรถยนต์มีความเป็นห่วงเรื่องความไม่เสถียร เพราะบี 7 หากทิ้งไว้นานอาจเกิดการเป็นไขซึ่งจะมีผลต่อเครื่องยนต์ ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานไปหาสารเร่งปฏิกิริยามาผสมเพื่อป้องกันการเป็นไข โดยจะต้องออกประกาศมาตรฐานคุณภาพบี 7 ให้เข้มงวดขึ้นในข้อกำหนดว่าด้วยเสถียรภาพต่อการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันน้ำและสิ่งปนเปื้อน
กำลังโหลดความคิดเห็น