“โซนี่” งัดทีวีจูนเนอร์ในตัวรับศึกทีวีดิจิตอล ยั่วใจผู้บริโภคด้วยราคาเท่ารุ่นปกติ หวังยอดขายทีวีเติบโต 15% ส่งภาพรวมรายได้ปีนี้โตแน่ 10% เชื่อภาพรวมตลาดทีวีปีนี้ฟื้นตัวกลับมาโตได้ที่ 20% หลังพบไตรมาสแรกหดลง 20% เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ตลาดทีวี
นายโทรุ ชิมิซึ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดทีวีในปีที่ผ่านมาพบว่าทรงตัวเท่าปีก่อนหน้า ขณะที่ไตรมาสแรกของปีนี้กลับมีอัตราการเติบโตลดลงถึง 20% โซนี่ก็มียอดขายเติบโตลดลงตามตลาดรวมด้วยเช่นกัน ถือเป็นครั้งแรกที่ตลาดทีวีตกลงตั้งแต่มีการจำหน่ายทีวีในประเทศไทย ส่วนสาเหตุสำคัญมาจากการชะลอตัวในการตัดสินใจซื้อ หลังกระแสดิจิตอลทีวีในไทยมีมาตั้งแต่ปีก่อน รวมถึงดีมานด์การซื้อที่อั้นมาซื้อทีวีสูงมากในช่วงหลังน้ำท่วม ทำให้หลังจากนั้นดีมานด์จึงชะลอตัวลง
ทั้งนี้ เริ่มมองเห็นสัญญาณว่าตลาดทีวีเริ่มกลับมาดีขึ้นตั้งแต่ เม.ย.ที่ผ่านมาด้วย ส่วนสำคัญมาจากกระแสดิจิตอลทีวี ที่ทาง กสทช.จะประกาศความชัดเจนในระยะอันใกล้นี้ ดังนั้น ในส่วนของโซนี่ปีนี้พร้อมนำเสนอทีวีบราเวียรุ่นใหม่ 18 รุ่น ขนาดตั้งแต่ 32-65 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 16,990 บาท ที่มาพร้อมการรองรับสัญญาณทีวีระบบดิจิตอลในตัว (มีจูนเนอร์ดิจิตอลในตัว) เริ่มทยอยวางจำหน่ายตั้งแต่กลางเดือน พ.ค.นี้เป็นต้นไป คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากจะวางราคาจำหน่ายเท่ากับรุ่นปกติ หรือน่าจะส่งผลให้รายได้กลุ่มทีวีเติบโตขึ้น 15% จากปกติโต 10% แบ่งเป็นรุ่นที่มีจูนเนอร์ 50% และรุ่นปกติ 50%
“สาเหตุที่ทำราคารุ่นจูนเนอร์ดิจิตอลได้เท่ารุ่นปกติ เนื่องจากโซนี่เป็นผู้ผลิตจูนเนอร์หลัก และโออีเอ็มให้กับแบรนด์อื่นด้วย อีกทั้งดีมานด์ในไทยค่อนข้างสูงจึงสามารถทำตลาดได้ ขณะที่ในญีุ่่ปุ่้นรุ่นที่มีจูนเนอร์จะราคาสูงกว่ารุ่นปกติ 10-15% ทั้งนี้มองว่าเบื้องต้นของกระแสการเปลี่ยนผ่านสู่ทีวีดิจิตอลของไทย น่าจะมีสัดส่วนที่ 30% ในปีแรก เพราะคนไทยยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ง่าย ขณะที่ในญี่ปุ่นปีแรกมีเพียง 4-5% เท่านั้น ซึ่งในญี่ปุ่นเข้าสู่ดิจิตอลทีวีมากกว่า 10 ปีแล้ว”
อย่างไรก็ตาม แผนการการดำเนินงานในปี 2556 (เม.ย. 56 - มี.ค. 57) บริษัทฯ พร้อมใช้งบการตลาดรวมกว่า 500 ล้านบาท ใกล้เคียงปีก่อน ที่มาพร้อมแท็กไลน์ใหม่ คือ “Be Moved” กับการก้าวสู่ดิจิตอลทีวีเต็มสูบ ในการนำเสนอสินค้าภายใต้เทคโนโลยีใหม่ๆ และใช้งานได้สะดวกขึ้น โดยกลุ่มทีวีจะมีออก 18 รุ่นใหม่, กลุ่มกล้อง เปิดตัว 7 รุ่นใหม่ และไวโอ้ เปิดตัว 2 ซีรีส์ใหม่ เป็นต้น
โดยสิ้นปีนี้มองว่าภาพรวมรายได้น่าจะกลับมาเติบโตได้ที่ 10% จากปีก่อนทรงตัว มาจากกลุ่มทีวี 50% โตขึ้น 15% กลุ่มกล้อง 20%เติบโต 30ถ กลุ่มไอที 10% ทรงตัวเท่าปีก่อน และอื่นๆ 15%