กบง.รีดเงินดีเซลโปะอีก 0.50 บ./ลิตร ราคาดีเซลคงอยู่ที่ 29.99 บาทต่อลิตร ขณะที่ราคากลุ่มเบนซินก็ไม่ลดลงหลังราคาตลาดโลกเริ่มขึ้น “พงษ์ศักดิ์” เผยสิ้น พ.ค.กองทุนน้ำมันฯ น่าจะกลับมาเป็นบวกได้ หลังจากนั้นจะต้องหารือคลังถึงแนวทางการเก็บภาษีฯ ดีเซลคืน
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวหลังการเป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) วันนี้ (23 เม.ย.) ว่า กบง.ได้เห็นชอบปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนของดีเซลขึ้นอีก 0.50 บาทต่อลิตรมีผลให้อัตราการจัดเก็บเพิ่มเป็น 4.90 บาทต่อลิตร จากเดิม 4.40 บาทต่อลิตร แต่ยังคงทำให้ราคาขายปลีกดีเซลอยู่ที่ 29.99 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่ 24 เม.ย.นี้
“ราคาตลาดโลก โดยเฉพาะส่วนของน้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์ได้ปรับตัวลดลงมา ประกอบกับค่าเงินบาทมีการแข็งค่าขึ้นมาอยู่ในระดับ 28.76 หรือแข็งค่ามา 0.426 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ทำให้ค่าการตลาดน้ำมันโดยเฉพาะดีเซลรวมสูงเฉลี่ย 2 บาทต่อลิตร โดยดีเซลหลังการเก็บค่าการตลาดอยู่ในระดับ 1.56 บาทต่อลิตร” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
สำหรับกองทุนน้ำมันฯ หลังการเก็บดีเซลเพิ่มขึ้นทำให้รายรับเพิ่มเป็นวันละ 293 ล้านบาทจากเดิมวันละ 264 ล้านบาท โดยฐานะกองทุนน้ำมันติดลบสุทธิ 10,026 ล้านบาท โดยประเมินว่ากองทุนฯ จะกลับมาเป็นบวกในอีก 40 วันหรือสิ้นเดือน พ.ค.เช่นเดิม เนื่องจากประเมินว่าทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกในสัปดาห์หน้าน่าจะปรับตัวไปในทิศทางเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 100-101 เหรียญต่อบาร์เรล จากเดิม 98-99 เหรียญต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางกระทรวงการคลังยังคงลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ 5 บาทต่อลิตร ดังนั้นหลังกองทุนน้ำมันฯ เป็นบวกจึงจะหารือกับกระทรวงการคลังถึงแนวทางการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตดีเซลคืนอีกครั้ง ส่วนการปรับโครงสร้างของราคาแอลพีจีขณะนี้ยังไม่มีการปรับราคาขึ้นตามมติเดิมที่กำหนดไว้วันที่ 31 พฤษภาคม และยังไม่มีการพิจารณาเพิ่มเนื่องจากการสำรวจยังไม่เสร็จสิ้น คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนเมษายน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่าการตลาดน้ำมันกลุ่มเบนซินเฉลี่ยอยู่ที่ 1.70 บาทต่อลิตร ประกอบกับทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกเริ่มปรับเพิ่มจึงทำให้ผู้ค้าน้ำมันไม่สามารถปรับลดราคาลงได้