“พาณิชย์” จับตาธุรกิจส่งออกเลิกกิจการจากพิษบาทแข็ง ไตรมาสแรกปิดตัวแล้ว 98 ราย “ณัฐวุฒิ” เผยบาทแข็งมีส่วน แต่ส่วนใหญ่เจ๊งเพราะขาดทุน ทำกำไรได้ไม่ตามเป้า และไม่ประกอบธุรกิจ ระบุไตรมาสแรก ธุรกิจส่งออกตั้งใหม่เฉียดพันราย ส่วนยอดรวมตั้งใหม่ทั้งประเทศเฉียด 2 หมื่นราย สูงสุดรอบ 111 ปี
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าติดตามการจดทะเบียนเลิกกิจการในส่วนของธุรกิจส่งออกอย่างใกล้ชิด หลังจากพบว่าการจดทะเบียนเลิกกิจการเดือน มี.ค. 2556 ซึ่งมีจำนวนรวม 831 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นธุรกิจส่งออก 31 ราย และเมื่อตรวจสอบย้อนหลังไป 2 เดือนก่อนหน้าพบว่า เดือน ม.ค.ปิดกิจการ 42 ราย ก.พ.25 ราย รวมไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) ปิดกิจการแล้ว 98 ราย โดยยอมรับว่าเงินบาทแข็งค่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจประสบภาวะขาดทุน แต่ก็ไม่มากนัก เพราะปัจจัยหลักมาจากการขาดทุน ทำธุรกิจไม่ได้ผลกำไรตามที่ตั้งไว้ และบางธุรกิจตั้งขึ้นมาแล้ว แต่ไม่ได้ประกอบกิจการก็เลยเลิกไป
ทั้งนี้ สถานการณ์การจดทะเบียนเลิกกิจการในส่วนของธุรกิจส่งออก ปัจจุบันยังถือว่าปกติ ไม่ถึงขั้นเลวร้าย แต่ต้องจับตาใกล้ชิด เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ซึ่งจะรวมกับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงวันละ 300 บาทที่ได้มีการปรับไปก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะปัญหาเงินบาทแข็งค่า ยังเชื่อว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีมาตรการในการดูแล
สำหรับประเภทธุรกิจส่งออกที่มีการเลิกกิจการในเดือน มี.ค.31 ราย ได้แก่ ธุรกิจส่งออกเสื้อผ้า และเมล็ดกาแฟ 17 ราย ธุรกิจส่งออกโลหะและแร่โลหะ 6 ราย ธุรกิจส่งออกสินค้าอุปโภค 6 ราย และธุรกิจส่งออกอาหารทะเลแช่เยือกแข็ง 2 ราย
อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบยอดการจัดตั้งกิจการ พบว่ามีธุรกิจส่งออกที่ขอจดทะเบียนจัดตั้งกิจการเพิ่มมากขึ้นกว่าเลิกกิจการ โดยเดือน ม.ค.มีธุรกิจส่งออกขอจัดตั้งจำนวน 332 ราย เดือน ก.พ.299 ราย และ มี.ค.348 ราย พบว่าสัดส่วนของยอดจัดตั้งธุรกิจยังสูงกว่ายอดเลิกกิจการเฉลี่ยแล้ว 10 ต่อ 1
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ยอดรวมการจัดตั้งกิจการในเดือน มี.ค.มีจำนวน 5,753 ราย เพิ่มขึ้น 5% เทียบกับ มี.ค. 2555 มีทุนจดทะเบียนรวม 2.05 หมื่นล้านบาท ลดลง 44% เทียบกับ มี.ค. 2555 ส่งผลไตรมาสแรก 2556 มีธุรกิจจัดตั้งกิจการจำนวน 1.96 หมื่นราย เพิ่มขึ้น 20% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 111 ปีนับแต่มีการรับจดทะเบียนนิติบุคคลขึ้นมา โดยทุนจดทะเบียนรวม 9.70 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 15%
ขณะที่การเลิกกิจการ มี.ค. 2556 มีจำนวน 831 ราย ลดลง 9% เทียบกับ มี.ค. 2555 มีทุนจดทะเบียนเลิก 4,505 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% ส่งผลให้ไตรมาสแรก 2556 มีธุรกิจจดทะเบียนเลิก 2,697 ราย ลดลง 3% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา มีทุนจดทะเบียนเลิก 9,233 ล้านบาท ลดลง 1%