xs
xsm
sm
md
lg

CPF ผุด 4 โรงงานรับเออีซี เพิ่มผลิตอาหารแปรรูป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข
ซีพีเอฟสร้างโอกาสรับเออีซี เตรียมผุด 4 โรงงานใหม่ มุ่งเพิ่มกำลังการผลิตอาหารแปรรูปสุกร และโรงงานซอส สู่กำลังการผลิตรวมที่2.7 แสนตันใน 2560 ด้วยเป้ารายได้กว่า 20,000 ล้านบาท หลังปีนี้มั่นใจรายได้โตไม่ต่ำกว่า 30% ทะลุ 10,000-12,000 ล้านบาท 

นายสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ด้านธุรกิจอาหารสำเร็จรูป บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะมีผลในปี 2558 หรือ เออีซี ทั้งในแง่ของวัตถุดิบ กำลังการผลิต และบุคลากร จากปัจจุบันมีโรงงานหลักอยู่ 3 แห่งคือ 1.โรงงานที่หนองจอก ผลิตไส้กรอกและอาหารพร้อมทาน 2.โรงงานที่สระบุรี ผลิตไส้กรอกและอาหารพร้อมทาน และ 3.โรงงานที่ฉะเชิงเทรา ผลิตอาหารแปรรูปสุกร โดยมีกำลังการผลิตในส่วนของไส้กรอกทั้งหมดกว่า 1.3 แสนตัน กำลังการผลิตอาหารสำเร็จรูปที่ 3.5 หมื่นตัน และกำลังการผลิตอาหารแปรูปสุกร 5 พันตัน รวมแล้วกว่า 80,000 ตัน 

โดยบริษัทมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตให้มากยิ่งขึ้นเพื่อรองรับประชากรกว่า 600 ล้านคนหลังเปิดเออีซี  ประกอบด้วย 3 โรงงานใหม่ในส่วนของแปรรูปสุกร ตั้งอยู่บนพื้นที่เดิม และโรงงานผลิตซอสโดยเฉพาะที่จะมี 3ไลน์การผลิต เช่น ซอสสำหรับแม่บ้าน ซอสสำหรับอาหารสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงงานในเครือ เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า งบประมาณการลงทุน 3 โรงงานแรกคาดว่าจะมี ประมาณ 3,500 ล้านบาท และอีก 1,000 ล้านบาทสำหรับโรงงานซอส รวมทั้งหมดปีหน้าลงทุนอย่างน้อย 4,500 ล้านบาท

นายสุขวัฒน์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีแผนขยายไลน์การผลิตต่างๆ ในโรงงานเดิมด้วย เช่น ไลน์บรรจุภัณฑ์ และเพิ่มเครื่องจักรใหม่สำหรับไลน์อาหารพร้อมทาน เป็นต้น เชื่อว่าจะส่งผลให้ในปี 2560 จะมียอดการผลิตรวมกว่า 2.3 แสนตันได้ หรือน่าจะมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท โดยกำลังการผลิตกว่า 50% จะมุ่งเน้นตลาดเออีซี หรือแบ่งรายได้ในประเทศเป็น 50% และต่างประเทศเป็น 50% เท่าๆกันจากปัจจุบันยอดขายจากต่างประเทศยังน้อยอยู่

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตบริษัทต้องการสร้างโรงงานการผลิตทั้งหมดเป็นฟู้ด คอมเพล็กซ์ โดยจะมีไลน์ผลิตอาหารแบบครบวงจร เช่น ขนมหวาน อาหารแปรรูป น้ำซุป ไส้กรอก ข้างวล่อง และซอส เป็นต้น

นายวิทวัส ตันติเวสส รองกรรมการผู้จัดการบริหารด้านการตลาด บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวต่อว่า สำหรับโรงงานที่หนองจอกถือเป็นโรงงานแปรรูปไส้กรอกที่ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีระดับโลกแห่งแรกในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งโรงงานแห่งนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2525 ใช้งบลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท แบ่งเป็นด้านการผลิต 1,100 ล้านบาท และในส่วนอาคารบ่อบำบัดน้ำเสียอีก 400 ล้านบาท เน้นผลิตไส้กรอกเกรดเอ แบรนด์ ซีพี ส่วนโรงงานที่สระบุรีจะผลิตไส้กรอกเกรดบี แบรนด์ บีเคพี 

โดยในส่วนของตลาดไส้กรอกรวมปัจจุบันมีมูลค่าตลาดกว่า 40,000 ล้านบาท เติบโต 10% ทุกปี ในส่วนของซีพีมีอัตราการเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 30% จาก 2 แบรนด์รวมกัน โดยปีนี้ตั้งเป้าโตอีก 30% หรือมีแชร์ในตลาดเพิ่มเป็น 25% จากเดิม 20% เป็นผู้นำตลาดด้วยรายได้จากส่วนของไส้กรอกกว่า 8,000 ล้านบาท ภายใต้งบการตลาดกว่า 200 ล้านบาทที่วางไว้ในปีนี้ ภายใต้กลยุทธ์ทางการตลาดหลายด้าน เช่น การเปิดตัวสินค้าใหม่ การใช้สื่อบีโลว์เดอะไลน์และอะโบฟเดอะไลน์ เป็นต้น ขณะที่ภาพรวมรายได้ของบริษัทปีนี้คาดว่าจะเติบโตราว30% หรือมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 10,000-12,000 ล้านบาทมาจากไส้กรอก 60% และอาหารพร้อมทาน 40%


กำลังโหลดความคิดเห็น