“ซีพีเอฟ” เปิดแผนลงทุนระยะ 3 ปี ตั้งงบประมาณ 5 หมื่นล้าน เพื่อขยายธุรกิจ แบ่งสัดส่วน 60% ลุยต่างประเทศ และที่เหลือ 40% สำหรับในประเทศ คาดโกยรายได้ปีนี้โตขึ้น 10% แต่ไม่ถึง 4 แสนล้าน ตามที่ตั้งเป้าเอาไว้ ส่วนการซื้อกิจการในยุโรป มั่นใจได้ข้อสรุปต้นปี 57
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยว่า บริษัทได้ตั้งงบลงทุนในระยะ 3 ปีจากนี้ (ปี 2557-2559) วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตของธุรกิจทั้งใน และต่างประเทศ แบ่งเป็นสัดส่วน 60% ลงทุนในต่างประเทศ
โดยเน้นประเทศที่บริษัทได้ลงทุนอยู่แล้วทั้ง 12 ประเทศ ได้แก่ จีน เวียดนาม อินเดีย รัสเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น ส่วนอีก 40% ใช้ลงทุนในประเทศ ซึ่งจะเน้นขยายสินค้าแบรนด์ของบริษัทและเพิ่มช่องทางจำหน่าย ได้แก่ แบรนด์ “ห้าดาว” ร้านซีพีเฟรชมาร์ท เป็นต้น ทั้งนี้ แหล่งเงินลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท แต่หากไม่เพียงพอก็ยังสามารถใช้เงินกู้ได้
นายอดิเรก กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้จากการขายในปีนี้จะอยู่ที่ 3.8-3.9 แสนล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ในระดับ 4 แสนล้านบาท หรือมีการเติบโตจากปีก่อนเพียง 10% จากเป้าหมายเดิมคาดว่าจะเติบโต 15% ขณะที่ในปี 2557 คาดว่ารายได้จากการขายจะเติบโตได้ถึง 15% มาที่ประมาณ 4.6 แสนล้านบาท และคาดว่าในช่วงต้นปี 2557 น่าจะได้ข้อสรุปการเจรจาเข้าซื้อกิจการอาหารในประเทศเบลเยียม ซึ่งเป็นกิจการที่ไม่ใหญ่มาก
ด้านนายวิทวัส ตันติเวสส รองกรรมการผู้จัดการบริหารด้านการตลาดกลาง CPF กล่าวว่า การเข้าซื้อกิจการในเบลเยียมเป็นโรงงานทีมีเทคโนโลยีการผลิตอาหารแช่เย็น ซึ่งบริษัทมีแผนจะเข้าไปผลิตอาหารสำเร็จรูป ทั้งอาหารแช่เย็น และแช่แข็งภายใต้ใช้แบรนด์ CP เพื่อเจาะตลาดเบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมนี จะทำให้ต้นทุนการผลิต และต้นทุนขนส่งต่ำ
ขณะที่ปัจจุบันยอดขายสินค้าอาหารสำเร็จรูป (FOOD) ของบริษัทมีสัดส่วน 12% ของรายได้ 4 แสนล้านบาทในปีนี้ และตั้งเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 20% ใน 5 ปีข้างหน้าที่รายได้จะเติบโตเป็น 7 แสนล้านบาท ด้วยการขยายตลาดทั้งใน และต่างประเทศ
สำหรับผลิตภัณฑ์ของอาหารสำเร็จรูป ได้แก่ สินค้าอาหารสดที่มีแบรนด์ “CP” ไส้กรอก อาหารพร้อมกิน (Ready Meal) และอาหารสแน็ก (snack) เช่น แซนด์วิช เบอร์เกอร์ เบเกอรี เกี๊ยวซ่า ทีใช้แบรนด์ของบริษัท
