“พาณิชย์” ขู่พ่อค้าฉวยโอกาสโขกราคาเอาเปรียบคนกลับบ้านช่วงสงกรานต์ เจอฟันไม่ยั้ง

“พาณิชย์” ขู่ฟันไม่ยั้งหากพบพ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเอาเปรียบคนเดินทางกลับบ้านช่วงสงกรานต์ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่คุมเข้มตามสถานีขนส่ง รถไฟ และแหล่งท่องเที่ยว

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการเดินทางไปตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในสถานีขนส่งหมอชิต วานนี้ (9 เม.ย.) ว่า เป็นการออกตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายของร้านค้าในสถานีขนส่ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนที่จะเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และเป็นการห้ามปรามพ่อค้าแม่ค้าที่จะใช้โอกาสที่คนเดินทางกลับบ้านฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้า ซึ่งกรมฯ ยังได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบทั้งสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ และปั๊มน้ำมันทั่วประเทศ โดยกำหนดให้มีการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายให้ชัดเจน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบยังไม่พบความผิดปกติ โดยสินค้าอุปโภคบริโภคได้จำหน่ายในราคาที่กำหนด ขณะที่อาหารปรุงสำเร็จก็ยังขายจานละ 25-40 บาท แต่หากประชาชนที่ไปใช้บริการพบว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือถูกเอารัดเอาเปรียบสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 ซึ่งกรมฯ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบทันที

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าวว่า สำหรับกรณีที่ราคาผักสดและมะนาวมีราคาแพงขึ้นในขณะนี้ จากการตรวจสอบไปยังตลาดสดที่เป็นพันธมิตรกับกรมฯ พบว่า ปริมาณผักและมะนาวยังอยู่ในระดับปกติไม่ได้ขาดแคลน แต่ราคาที่แพงขึ้นเป็นไปตามฤดูกาล โดยราคามะนาวจากสวนลูกละ 5-7 บาท พอมาขายปลีกก็อาจจะแพงขึ้นเป็น 10 บาท ช่วงนี้จึงอยากให้ผู้บริโภคหาสินค้ามาบริโภคทดแทน เช่น มะนาวแพงก็หันไปกินส้มจี๊ด ลูกเล็กมีรสเปรี้ยวเหมือนกัน ส่วนผักใบชนิดอื่นแม้ราคาสูงขึ้น แต่ไม่ได้แพงกว่า 2 ปีที่แล้ว

ส่วนกรณีเนื้อหมูปรับขึ้นราคา เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด ทำให้หมูโตช้า แต่เนื้อหมูมีปริมาณเพียงพอต่อการบริโภค และการปรับขึ้นราคายังอยู่ในระดับราคาที่เหมาะสมระหว่างผู้เลี้ยงกับผู้บริโภค คือหมูเนื้อแดงขายปลีกไม่เกิน กก.ละ 130-140 บาท