“พาณิชย์” ประกาศเพิ่มราคาแนะนำหมูตัดแต่งยอมให้แพงกว่าหมูทั่วไปกิโลละ 10 บาท ราคาทะลุ 133-134 บาท ส่วนหมูเนื้อแดงปกติให้ขายราคา 123-124 บาท
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ประกาศปรับราคาแนะนำสุกรล่าสุด ประจำวันที่ 18-24 ก.พ. 2556 โดยได้เพิ่มราคาแนะนำขายปลีกหมูเนื้อแดงแบบตัดแต่ง ส่วนสะโพกและไหล่ ซึ่งสูงกว่าราคาหมูเนื้อแดงทั่วไปเฉลี่ย กก.ละ 10 บาท โดยราคาในเขตกรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคตะวันตก ให้ขายไม่เกิน กก.ละ 133 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่เกิน กก.ละ 133 บาท ภาคตะวันออกไม่เกิน กก.ละ 134 บาท ภาคใต้ไม่เกิน กก.ละ 133 บาท และภาคเหนือไม่เกิน กก.ละ 134 บาท ยกเว้นเนื้อสุกรชนิดที่มีคุณภาพพิเศษ เช่น เนื้อสุกรอนามัย เนื้อสุกรไร้สาร ที่มีการรับรองจากหน่วยงานราชการ
ส่วนราคาขายหมูเนื้อแดงไม่ตัดแต่งสะโพกและไหล่ เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนอีก กก.ละ 2-3 บาท ในเขตกรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคตะวันตกไม่เกิน กก.ละ 123 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่เกิน กก.ละ 123 บาท ภาคตะวันออกไม่เกิน กก.ละ 124 บาท ภาคใต้ไม่เกิน กก.ละ 123 บาท และภาคเหนือไม่เกิน กก.ละ 124 บาท ขณะที่ราคาขายส่งชิ้นส่วนหมูเนื้อแดงเพิ่มขึ้น กก.ละ 2-3 บาท ในเขตกรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคตะวันตกไม่เกิน กก.ละ 108 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่เกิน กก.ละ 108 บาท ภาคตะวันออกไม่เกิน กก.ละ 109 บาท ภาคใต้ ไม่เกิน กก.ละ 108 บาท และภาคเหนือไม่เกิน กก.ละ 109 บาท
สำหรับราคาแนะนำสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มสัปดาห์นี้ ปรับตัวลดลงเฉลี่ย กก.ละ 1-2 บาท ในเขตกรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคตะวันตก ให้ขายไม่ต่ำกว่า กก.ละ 65 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่ต่ำกว่า กก.ละ 65 บาท ภาคตะวันออกไม่ต่ำกว่า กก.ละ 66 บาท ภาคใต้ ไม่ต่ำ กก.ละ 65 บาท และภาคเหนือไม่ต่ำกว่า กก.ละ 66 บาท ขณะที่ราคาจำหน่ายส่งหมูชำแหละ (หมูซีก) เฉลี่ยลดลง กก.ละ 1 บาท ในเขตกรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคตะวันตกไม่เกิน กก.ละ 78 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่เกิน กก.ละ 78 บาท ภาคตะวันออกไม่เกิน กก.ละ79 บาท ภาคใต้ไม่เกิน กก.ละ 78 บาท และภาคเหนือไม่เกิน กก.ละ 79 บาท
“กรมฯ จะติดตามสถานการณ์และราคาสุกรอย่างใกล้ชิด และขอให้ผู้จำหน่ายปลีกปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายให้ผู้บริโภคเห็นอย่างชัดเจน ถ้าหากไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้ามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ แจ้งที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานการค้าภายในจังหวัดทั่วประเทศ หากพบการกระทำผิด กรมฯ จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด”
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ประกาศปรับราคาแนะนำสุกรล่าสุด ประจำวันที่ 18-24 ก.พ. 2556 โดยได้เพิ่มราคาแนะนำขายปลีกหมูเนื้อแดงแบบตัดแต่ง ส่วนสะโพกและไหล่ ซึ่งสูงกว่าราคาหมูเนื้อแดงทั่วไปเฉลี่ย กก.ละ 10 บาท โดยราคาในเขตกรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคตะวันตก ให้ขายไม่เกิน กก.ละ 133 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่เกิน กก.ละ 133 บาท ภาคตะวันออกไม่เกิน กก.ละ 134 บาท ภาคใต้ไม่เกิน กก.ละ 133 บาท และภาคเหนือไม่เกิน กก.ละ 134 บาท ยกเว้นเนื้อสุกรชนิดที่มีคุณภาพพิเศษ เช่น เนื้อสุกรอนามัย เนื้อสุกรไร้สาร ที่มีการรับรองจากหน่วยงานราชการ
ส่วนราคาขายหมูเนื้อแดงไม่ตัดแต่งสะโพกและไหล่ เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนอีก กก.ละ 2-3 บาท ในเขตกรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคตะวันตกไม่เกิน กก.ละ 123 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่เกิน กก.ละ 123 บาท ภาคตะวันออกไม่เกิน กก.ละ 124 บาท ภาคใต้ไม่เกิน กก.ละ 123 บาท และภาคเหนือไม่เกิน กก.ละ 124 บาท ขณะที่ราคาขายส่งชิ้นส่วนหมูเนื้อแดงเพิ่มขึ้น กก.ละ 2-3 บาท ในเขตกรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคตะวันตกไม่เกิน กก.ละ 108 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่เกิน กก.ละ 108 บาท ภาคตะวันออกไม่เกิน กก.ละ 109 บาท ภาคใต้ ไม่เกิน กก.ละ 108 บาท และภาคเหนือไม่เกิน กก.ละ 109 บาท
สำหรับราคาแนะนำสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มสัปดาห์นี้ ปรับตัวลดลงเฉลี่ย กก.ละ 1-2 บาท ในเขตกรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคตะวันตก ให้ขายไม่ต่ำกว่า กก.ละ 65 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่ต่ำกว่า กก.ละ 65 บาท ภาคตะวันออกไม่ต่ำกว่า กก.ละ 66 บาท ภาคใต้ ไม่ต่ำ กก.ละ 65 บาท และภาคเหนือไม่ต่ำกว่า กก.ละ 66 บาท ขณะที่ราคาจำหน่ายส่งหมูชำแหละ (หมูซีก) เฉลี่ยลดลง กก.ละ 1 บาท ในเขตกรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคตะวันตกไม่เกิน กก.ละ 78 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่เกิน กก.ละ 78 บาท ภาคตะวันออกไม่เกิน กก.ละ79 บาท ภาคใต้ไม่เกิน กก.ละ 78 บาท และภาคเหนือไม่เกิน กก.ละ 79 บาท
“กรมฯ จะติดตามสถานการณ์และราคาสุกรอย่างใกล้ชิด และขอให้ผู้จำหน่ายปลีกปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายให้ผู้บริโภคเห็นอย่างชัดเจน ถ้าหากไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้ามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ แจ้งที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานการค้าภายในจังหวัดทั่วประเทศ หากพบการกระทำผิด กรมฯ จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด”