กรมขนส่งฯ ติดตั้งระบบ RFID จับความเร็วรถตู้โดยสารสาธารณะครอบคลุมเพิ่มอีก 10 เส้นทาง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ตรวจเข้มรถตู้ป้ายดำ พบปรับหนักทุกราย แนะประชาชนให้ใช้บริการรถตู้โดยสารที่ถูกกฎหมายเท่านั้น พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เคลื่อนที่ตรวจความเร็วช่วงสงกรานต์
นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากที่กรมขนส่งฯได้กวดขันจับกุมรถตู้โดยสารผิดกฎหมายและได้นำเทคโนโลยีระบบ RFID มาใช้ในการควบคุมความเร็วของรถตู้โดยสารสาธารณะ โดยในระยะแรก ได้ทำการติดตั้งเครื่องอ่านข้อมูล RFID บริเวณเส้นทางยกระดับอุตราภิมุข (โทลล์เวย์) มาตั้งแต่ 1 เมษายน 2555 ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดได้ขยายการติดตั้งระบบเทคโนโลยี RFID เพิ่มเติมอีก 10 เส้นทาง เพื่อให้ครอบคลุมเส้นทางในระยะรัศมี 300 กิโลเมตรรอบกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ระบบทางด่วนขั้นที่ 1), ทางพิเศษศรีรัช (ระบบทางด่วนขั้นที่ 2), ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางด่วนสายบางนา-ชลบุรี), ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (กรุงเทพฯ-ชลบุรี), ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 (ถนนกาญจนาพิเษก), ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (บางปะอิน-พยุหะคีรี), ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2), ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 305 (ถนนรังสิต-นครนายก), ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 340 (บางบัวทอง-สุพรรณบุรี)
โดยหากตรวจพบรถตู้โดยสารสาธารณะขับเร็วเกินกำหนด ผู้ขับรถจะมีโทษ ดังนี้ ครั้งที่ 1 เปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท กระทำผิด ครั้งที่ 2 ภายใน 3 เดือน นับแต่กระทำผิดครั้งแรกจะถูกลงโทษปรับ 5,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถ 30 วัน และหากกระทำผิด ครั้งที่ 3 ภายใน 6 เดือน นับแต่กระทำความผิดครั้งแรก จะถูกลงโทษเปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถ ส่วนผู้ประกอบการขนส่งจะถูกลงโทษเปรียบเทียบปรับ ครั้งที่ 1 จำนวน 5,000 บาท ครั้งที่ 2 เปรียบเทียบปรับ 10,000 บาท พร้อมถอนรถออกจากการประกอบการ
นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกยังได้จัดผู้ตรวจการออกหน่วยเคลื่อนที่ตรวจจับความเร็วของรถโดยสารสาธารณะ ในเส้นทางหลักเข้า-ออกกรุงเทพฯ ไปยังต่างจังหวัด ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 10 เมษายน 2556 เพื่อเข้มงวดตรวจสอบรถตู้โดยสารสาธารณะมิให้ขับเร็วเกินกำหนด และอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนตลอดการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้
อย่างไรก็ตาม จากที่กรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ โดยได้จัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบรถตู้โดยสารสาธารณะตามจุดต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อกวดขันจับกุมรถตู้โดยสารที่ผิดกฎหมาย โดยหากตรวจพบจะมีความผิดฐาน ประกอบการขนส่งโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเพื่อเป็นการพิทักษ์สิทธิในการใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะขอให้ประชาชนเลือกใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการ ซึ่งสังเกตได้จากแผ่นป้ายทะเบียนรถต้องเป็นทะเบียนสีเหลือง ตัวเลขและตัวอักษรสีดำ ด้านข้างมีเครื่องหมายแสดงการเข้าร่วมกับ ขสมก. หรือ บขส. ชื่อเส้นทาง พร้อมระบุจำนวนที่นั่งชัดเจนด้วย