xs
xsm
sm
md
lg

จีเอ็มเอ็มปรับโฮมชอปปิ้ง รับคู่แข่งดาหน้าชิงตลาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธุรกิจโฮมชอปปิ้งภายใต้แบรนด์ “โอ ช้อปปิ้ง” ซึ่งเตรียมเพิ่มสินค้าอีกเท่าตัว หรือราว 100 แบรนด์
"โอ ชอปปิ้ง" เผยแผนรับมือคู่แข่งโฮมชอปปิ้งเพียบ ปรับเป้ารายได้เหลือ 500 ล้านบาท จาก 600 ล้าน รุกหนักเพิ่มช่องรายการทางเคเบิลทีวีมากขึ้น โหมสินค้าอีกเท่าตัว สู่ 100 แบรนด์ ห้าวใน5ปี รั้งบัลลังภ์ผู้นำตลาดด้วยยอดขายทะลุ 6,000ล้านบาท

นายซอง นัก เจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม ซีเจโอ ช้อปปิ้ง จำกัด ดำเนินธุรกิจโฮมชอปปิ้ง ภายใต้แบรนด์ "โอ ชอปปิ้ง" เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดโฮมชอปปิ้งปีนี้คาดว่าจะเติบโต 20% จากมูลค่า7,000 ล้านบาทในปีก่อน ส่วนสำคัญมาจากการทำการตลาดและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นของแต่ละแบรนด์ ที่สำคัญมีผู้เล่นเข้ามาใหม่ในตลาดเพิ่มขึ้น เช่น จากความร่วมมือของ 3 บริษัทใหญ่ คือ เซ็นทรัล ไอซีซี ที่จับมือกับซูมิโตโมเข้ามาทำตลาดโฮมชอปปิ้งในไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้ผู้บริโภคให้การยอมรับและมีความเชื่อถือในตลาดโฮมชอปปิ้งมากยิ่งขึ้น

ในส่วนของโอ ชอปปิ้ง ปีนี้วางแผนภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1.CER (Corporate Expertise Reputation) มุ่งคัดสรรสินค้าที่ดีมีคุณภาพมานำเสนอมากขึ้น จากปีก่อนมีอยู่ 50 แบรนด์ หรือมีรายการสินค้าราว 100 รายการ แบ่งเป็น จากเกาหลี 70% และไทย 30% ปีนี้จะเพิ่มเป็นเท่าตัว หรือราว 100 แบรนด์ จำนวนสินค้าอยู่ที่ 150-200 รายการ ประกอบด้วย เครื่องครัว เครื่องสำอาง/บำรุงผิว
และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นต้น 2.CSR (Corporate Social Responsibility) กับแคมเปญ O Shopping แชร์สุข และ3.Star Marketing โดยการดึง เจี๊ยบ-โสภิตนภา มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์

นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น โดยจะขยายช่องรายการ โอ ชอปปิ้ง สู่เคเบิลทีวีให้ครอบคลุมลูกค้าทั่วประเทศให้มากขึ้น จากปัจจุบัน ช่องโอ ชอปปิ้ง ออกอากาศทางช่องหมายเลข0ทางกล่องทีวีดาวเทียม GMM Z, ช่องหมายเลข 127 ทางจานดาวเทียม PSI, ช่องหมายเลข 33 ทางจานดาวเทียมPSI OK, ช่องหมายเลข 30 ทางจานดาวเทียม DTV
รวมทั้งจับมือพันธมิตรนำรายการของโอชอปปิ้ง ไปออกอากาศผ่านช่องต่างๆด้วย ได้แก่ FAN TV, JKN, K Channel, Beauty Channel และ K Channel เป็นต้น

อย่างไรก็ตามจากการแข่งขันที่สูงขึ้น ส่งผลให้การดำเนินงานในปีที่2นี้ ต้องมีการปรับตัวมากยิ่งขึ้น โดยในแง่ของเป้ารายได้นั้นได้ปรับลดลงมาอยู่ที่ 500 ล้านบาท จากเดิมที่วางไว้ 600 ล้านบาทด้วย
ขณะที่ปีก่อนหลังจากเข้ามาทำตลาดในไทยตั้งแต่ช่วงกลางปีไปจนถึงสิ้นปี2555นั้น ทำรายได้อยู่ที่ 100 ล้านบาทต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ 140 ล้านบาท

ทั้งนี้หลังปรับกลยุทธ์การขายใหม่ พบว่าตัวเลขรายได้ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา ทำรายได้ไปแล้ว 100 กว่าล้านบาท ดังนั้นจึงมั่นใจว่าถึงสิ้นปีนี้จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาทที่วางไว้แน่
หากการเติบโตเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ภายใน5ปีหลังจากนี้ บริษัทจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท พร้อมขึ้นเป็นผู้นำในตลาดโฮมชอปปิ้งได้แน่ จากปัจจุบัน 3 อันดับแรกในตลาด คือ ทีวีไดเร็ค, 1577โฮมชอปปิ้ง และ ทรูซีเล็ค


กำลังโหลดความคิดเห็น