“คมนาคม” สั่ง ร.ฟ.ท.เคาะประมูล e-Auction ปรับปรุงและสร้างทางรถไฟช่วงคลองสิบเก้า-อรัญประเทศ-คลองลึก 174 กม. วงเงิน 2.82 พันล้าน 10 เม.ย.นี้ เพื่อต่อเชื่อมทางรางจากไทยถึงปอยเปตของกัมพูชาให้สมบูรณ์ ส่วนสะพานเชื่อม 2 ฝั่งยังไม่ยุติ เหตุกัมพูชาเสนอให้ไทยออกค่าก่อสร้างทั้งหมด “ชัชชาติ” เผยการค้าชายแดนไทย-กัมพูชาบูม หวังยาวเชื่อมถึงจีนดัน เส้นทางรถไฟ SKRL (สิงคโปร์-คุนหมิง เรลลิงก์) ครบทุกช่วง
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังหารือการก่อสร้างสะพานทางรถไฟข้ามแดนไทย-กัมพูชา วานนี้ (2 เม.ย.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบการประกวดราคาด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) เพื่อปรับปรุงทางรถไฟ ช่วงคลองสิบเก้า-คลองลึก ระยะทาง 174 กิโลเมตร วงเงิน 2,822 ล้านบาท ในวันที่ 10 เมษายน 2556 นี้ ส่วนการก่อสร้างช่วงสะพานรถไฟจากคลองลึก จังหวัดสระแก้ว กับปอยเปต ประเทศกัมพูชา ระยะทาง 43 เมตร งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 30 ล้านบาทนั้น ทางกัมพูชาเสนอให้ไทยช่วยออกค่าก่อสร้างของสะพานฝั่งกัมพูชาประมาณ 15 ล้านบาท แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปโดยจะต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติก่อน ดังนั้นอาจจะต้องเว้นการก่อสร้างช่วงสะพานไว้ก่อนจนกว่าจะได้ข้อสรุป โดยปัจจุบันมีผู้บุกรุกแนวเส้นทางประมาณ 50 ราย
“โครงการปรับปรุงทางรถไฟ ช่วงคลองสิบเก้า-อรัญประเทศ จะมีการเปลี่ยนรางขนาด 100 ปอนด์ เปลี่ยนหมอนคอนกรีต เปลี่ยนหินโรยทางใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง ส่วนทางกัมพูชาจะทำทางรถไฟ ระยะทาง 48 กิโลเมตรเข้ามาเชื่อม จะทำให้เป็นเส้นทางที่เชื่อมกรุงเทพฯ-อรัญประเทศ-พนมเปญ-โฮจิมินห์ ขึ้นไปประเทศจีนได้ หรือเรียกว่าเส้นทางรถไฟ SKRL (สิงคโปร์-คุนหมิง เรลลิงก์) ซึ่งรถไฟเส้นทางนี้ในอดีตมีการคมนาคมขนส่งมาก แต่ต้องหยุดไปบางช่วง แต่หลังพัฒนาปรับปรุงทางใหม่แล้วจะช่วยรองรับการเดินทางทั้งคนและสินค้าชายแดนด้วยระบบรางระหว่างไทย-กัมพูชาได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยจะเป็นเส้นทางเชื่อมไปยังเวียดนามและจีนในอนาคตซึ่งก็สอดคล้องกับแนวนโยบายการจัดตั้งเศรษฐกิจพิเศษ” นายชัชชาติกล่าว
นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในแผนการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัยต่อการเดินรถเริ่มจากสถานีชุมทางคลองสิบเก้า-อรัญประเทศ ระยะทาง 168 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันมีการเดินรถ และก่อสร้างทางระหว่างสถานีอรัญประเทศ-สะพานคลองลึก (เขตชายแดนไทย-กัมพูชา) ใหม่บนแนวเขตทางเดิม ระยะทาง 6 กิโลเมตร ซึ่งรถไฟได้เลิกวิ่งไปนานแล้ว งบประมาณ 2,822 ล้านบาท ซึ่งรวมค่าก่อสร้างส่วนของสะพาน 43 เมตรวงเงิน 30 ล้านบาทไว้แล้ว ระยะเวลาก่อสร้างรวม 900 วัน หรือประมาณ 2 ปีครึ่ง
อย่างไรก็ตาม หลักการการก่อสร้างช่วงสะพานนั้นจะออกค่าก่อสร้างฝ่ายละครึ่ง ซึ่งทางกัมพูชาขออนุเคราะห์รัฐบาลไทยให้ช่วยเหลือค่าก่อสร้างประมาณ 15 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงต่างประเทศกำลังเจรจากันอยู่ หากหลังประกวดราคายังไม่ได้ข้อยุติ จะยังไม่มีการก่อสร้างในส่วนของสะพาน ซึ่งในสัญญาได้มีการระบุไว้ว่าจะก่อสร้างสะพานเมื่อทั้ง 2 ประเทศได้ข้อสรุปร่วมกันก่อน
