ขาขึ้นดิจิตอลมีเดียคาดปีนี้โตเท่าตัวสู่ 10% ของตลาดรวมโฆษณา 1 แสนล้านบาท ภาครัฐ-เอกชน แห่ลงทุนด้านระบบไอทีทะลุ 10,000 ล้านบาท หลังพบพฤติกรรมผู้บริโภคใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์สูง โอกาสทองดิจิตอลเอเจนซี่ ล่าสุด เอ็กซ์เอ็มเอเชีย ผนึก ธอมัสไอเดีย เพิ่มขีดความสามารถนำลูกค้าบุกเออีซี มั่นใจสิ้นปีรายได้เพิ่มอีก 50%
นางสาวอุไรพร ชลสิริรุ่งสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธอมัสไอเดีย จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการแข่งขันของดิจิตอลเอเจนซี่ปีนี้จะรุนแรงขึ้น หลังจากปีก่อนที่หลายๆเอเจนซี่เพิ่มแผนกดิจิตอลมีเดียขึ้นมาโดยเฉพาะ หรือมองหาพาร์ทเนอร์ทำงานร่วมกัน เนื่องจากเห็นความสำคัญและผลของการใช้สื่อดิจิตอลมากขึ้น ในกระแสความนิยมของผู้บริโภคที่ใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์มากขึ้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ธอมัสไอเดีย ได้มีการจับมือกับทาง เอ็กซ์เอ็ม เอเชีย แปซิฟิก เพื่อต้องการสร้างความแข็งแกร่งและต่อยอดการร่วมมือครั้งนี้ เพื่อช่วยลูกค้าทำการตลาดด้านดิจิตอลมีเดียไปยังตลาดอาเซียนหลังเปิดเออีซี ซึ่งเอ็กซ์เอ็มฯนั้น ถือเป็นบริษัทในเครือเจดับบลิวที และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท ดับบลิวพีพี (WPP) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิตอลมีเดีย มีเครื่องมือและข้อมูลเชิงลึก เพื่อใช้ทำตลาดในประเทศกลุ่มอาเซียนเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้มองว่าภาพรวมการใช้สื่อออนไลน์ในปีนี้น่าจะมีสัดส่วนที่ 10% หรือเติบโตขึ้นเป็นเท่าตัว จาก 2-5 % ในปีก่อน ของภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณา 100,000 กว่าล้านบาท หรอืประมาณ 10,000 ล้านบาท ส่วนสำคัญมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เข้าถึงโลกออนไลน์สูงขึ้น จากการที่ภาครัฐและเอกชนมีการลงทุนด้านอินฟาสตรัคเจอร์ระบบไอทีรวมกันไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ยิ่งจะทำให้เทคโนโลยีของโลกออนไลน์มีประสิทธิภาพมากขึ้น เอเจนซี่โฆษณาจึงหันมาให้ความสำคัญของสื่อออนไลน์และดิจิตอลมีเดียมากขึ้นตามไปด้วย
สำหรับธอมัสไอเดีย หลังเข้าร่วมงานกับทางเอ็กซ์เอ็ม จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและเครื่องมือการทำงาน และผสมผสานการทำงานเข้าด้วยกัน ส่วนสำคัญเพื่อช่วยลูกค้าสร้างแพลทฟอร์มดิจิตอลมีเดียสู่ตลาดอาเซียน เพื่อนำไปสู่การทำมาร์เก็ตติ้งคอมมูนิเคชั่น การอินเกรทเม้นท์ และแพลทฟอร์มการค้าขายบนโลกออนไลน์ต่อไปซึ่งลูกค้าหลายรายพอใจกับการร่วมมือครั้งนี้เป็นอย่างมาก ในทางกลับกันยังได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ทั้งแบบลูกค้าในประเทศที่ต้องการทำตลาดอาเซียน และลูกค้าของเอ็กซ์เอ็มเองที่ต้องการเข้ามาทำตลาดในไทยด้วย เชื่อว่าถึงสิ้นปีน่าจะมีรายได้เติบโตขึ้นอีกกว่า 40-50% จากปกติเติบโตปีละ 30% ทุกปี
ด้านนายพอล ซูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอ็กซ์เอ็ม เอเชีย แปซิฟิก และผู้อำนวยการ ฝ่ายดิจิตอล เจดับบลิวที เอเชีย แปซิฟิก กล่าวต่อว่า ไทยถือเป็นประเทศล่าสุดที่เอ็กซ์เอ็มฯเข้ามาทำตลาด จากที่ผ่านมาได้เข้าไปทำตลาดแล้ว 3 ประเทศ คือ สิงคโปร์ อินโดรนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งประเทศเหล่านี้หลังจากที่เข้าไปทำตลาดพบว่ามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น ไม่ต่ำกว่า 80%
ดังนั้นการเข้ามารุกตลาดในไทยครั้งนี้ จึงเชื่อว่าน่าจะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกัน เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพและมีโอกาสการเติบโตของดิจิตอลมีเดียค่อนข้างสูงจากฐานตลาดยังเล็กอยู่ บวกกับภาครัฐและเอกชนให้ความสำคัญพร้อมลงทุนด้านระบบโครงข่าย เชื่อว่าในอนาคตดิจิตอลมีเดียจะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น
โดยในส่วนของรายได้ของเอ็กซ์เอ็มฯนั้น สิ้นปีนี้มองว่าจะมาจากสิงคโปร์ 50% อินโดนีเซีย 20% ไทย 20% และมาเลเซีย 10% ซึ่งอนาคตมองว่าไทยจะเพิ่มสัดส่วนได้อีกมาก ขณะที่สิงคโปร์จะลดลงเนื่องจากฐานประชากรที่มีน้อยกว่าทุกประเทศ
