ดีเอ็นเอ 2002 เดินหน้ารุกเต็มที่ หวังกวาดรายได้ปี 56 เติบโต 30-40% จากปีก่อน พร้อมขยับส่วนแบ่งตลาดแตะ 50% ชูจุดแข็งมีจุดจำหน่ายกว่า 1,432 แห่ง คลุมทั่วประเทศ อีกทั้งรับรู้รายได้จากพื้นที่เพิ่มในห้างเทสโก้ โลตัสเต็มปี พร้อมเพิ่มสินค้ากลุ่มบันเทิงเพื่อตอบโจทย์ที่หลากหลายของผู้บริโภค ขณะปีนี้เตรียมเปิดสาขาใหม่ 300-350 สาขา ระบุปีนี้สื่อโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์สดใส
นายสามารถ ฉั่วศิริพัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ DNA ผู้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าสื่อโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ประเภทภาพยนตร์ เพลง และนิตยสาร ที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ผ่านช่องทางร้านค้าปลีก เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปี 2556 ที่ระดับ 30-40% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความแข็งแกร่งด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ที่มีทั้งรูปแบบของร้านค้าปลีก ร้านค้าฝากขาย และห้างสรรพสินค้ากว่า 1,432 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ และจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องตามการเพิ่มสาขาของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ และห้างสรรพสินค้า
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ใช้กลยุทธ์เชิงรุกในการดำเนินธุรกิจ โดยเพิ่มสินค้ากลุ่มบันเทิงใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบัน รายได้หลักของบริษัทฯ มาจากการจำหน่ายแผ่นดีวีดี ซีดี และวีซีดี ประเภทภาพยนตร์ และเพลง ก็จะมีรายได้อื่นๆเข้ามาเสริมมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะเป็นตัวผลักดันยอดขายบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
“เราจะใช้กลยุทธ์เชิงรุกเต็มที่ในปีนี้ เพื่อผลักดันผลการดำเนินงานของเราปีนี้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังได้เข้าไปเช่าพื้นที่เพิ่มเติมในห้างเทสโก้ โลตัส ถึง 131 สาขาในปีก่อน และจะรับรู้รายได้เต็มปี อีกทั้งมีแผนเพิ่มจุดจำหน่ายอีก 300-350 แห่งทั่วประเทศ คาดใช้งบ 50 ล้านบาท แถมเร่งเพิ่มยอดการใช้จ่ายต่อครั้งในการซื้อสินค้าโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์เพิ่ม ขึ้น จากปัจจุบันมียอดใช้จ่ายอยู่ที่ 170 บาทต่อบิล ด้วยการเพิ่มสินค้าใหม่ๆ ในกลุ่มบันเทิง” นายสามารถกล่าว
สำหรับภาพรวมตลาดโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ ปี56 มองว่ายังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องจากปี 55 ที่มีมูลค่าตลาดรวม 5,000 ล้านบาท เนื่องจากภาวะอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศยังเติบโตได้ดี ทำให้เชื่อว่าจะส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคให้เพิ่มขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยยังนิยมเลือกซื้อสินค้าสื่อโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ไปรับชมที่บ้าน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการบริโภคสื่อประเภทอื่นๆ
ทั้งนี้ บริษัทฯ วางเป้าขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าประเภทโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ ด้วยจุดแข็งของจุดจำหน่าย แล้วยังมีความพร้อมทางด้านเงินทุน รวมถึงชื่อเสียง ภาพลักษณ์ของบริษัทฯ ได้รับการยอมรับ และเป็นที่รู้จักมากขึ้นหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
“ปีนี้ถือเป็นปีที่เรามีความพร้อมมากที่สุด ทั้งทางด้านเงินทุน ชื่อเสียง ภาพลักษณ์ จุดจำหน่าย และความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตร ทั้งผู้ผลิต และผู้นำเข้าภาพยนตร์ต่างประเทศ ที่จะเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพการทำธุรกิจสื่อโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ของเราให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด เราวางเป้าหมายในปีนี้จะขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาดสื่อโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ ด้วยการครองส่วนแบ่งทางการตลาดแตะ 50%” นายสามารถกล่าว