“ฮิตาชิ” ขยับเก้าอี้ในรอบ 5 ปี ทุ่ม 1,000 ล้านบาท ลุยการตลาดเต็มสูบ ดึงสินค้าเมดอินเจแปนช่วยสร้างแบรนด์กระตุ้นยอดในต่างจังหวัด โฟกัสเครื่องปรับอากาศ หวังเพิ่มแชร์เป็น 8% หลังตู้เย็นติดลมบนขึ้นแท่นผู้นำไซด์บายไซด์ด้วยแชร์ 23% ฟันธงตลาดเอชเอปีนี้โตได้ 10% แต่ฮิตาชิมั่นใจโตได้มากกว่าที่ 15%
นายบุญชัย พุทธาโกฐิรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ฮิตาชิเซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมีความพร้อมในการรุกทำการตลาดอย่างเต็มที่ ด้วยงบการตลาดกว่า 1,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ใช้ 800 ล้านบาท หลังจากที่ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา บริษัทมุ่งเน้นพัฒนาสินค้า สร้างช่องทางจำหน่ายเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากกว่าการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของทางบริษัทแม่ที่ไม่ต้องการเป็นข่าว เนื่องจากมองว่าตัวเลขต่างๆ อาจจะทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการดำเนินธุรกิจได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับงบการตลาดกว่า 1,000 ล้านบาทนั้นจะถูกนำไปใช้กับทุกผลิตภัณฑ์ที่ทำตลาด มุ่งเน้นในเรื่องของการสร้างแบรนด์และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านภาพยนตร์โฆษณาเป็นหลัก โดยกว่า 200 ล้านบาทจะโฟกัสไปกับเครื่องปรับอากาศที่ปีนี้บริษัทฯ จะเน้นทำการตลาดเป็นหลัก คาดว่าถึงสิ้นปีงบประมาณ 2556 (เม.ย. 56 - มี.ค. 57) จะมีแชร์ในตลาดแอร์เพิ่มเป็น 7-8% ได้ จากปัจจุบันมีแชร์อยู่ 5% หรือมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
ทั้งนี้ ตามแผนการดำเนินงานในปีนี้ยังมุ่งเน้นในเรื่องของการสร้างตลาดใหม่ให้ลูกค้ามีประสบการณ์เข้าถึงการใช้งานของผลิตภัณฑ์มากขึ้น เบื้องต้นตั้งแต่ปลายปี 2555 ที่ผ่านมาได้นำเข้าผลิตภัณฑ์จากญี่ปุ่น หรือเมดอินเจแปนเข้ามาจำหน่ายด้วย โดยได้จัดทำเป็นกลุ่มสินค้า “เมดอินเจแปนคอร์เนอร์” ขึ้นมาตามร้านค้าดีลเลอร์ทั่วประเทศกว่า 60-80 ร้านแล้ว
ในปัจจุบันพบว่าได้รับการตอบรับดีมากจากลูกค้าต่างจังหวัด ถึงแม้กลุ่มสินค้าเมดอินเจแปนจะมีราคาสูงกว่าสินค้าที่ผลิตในไทยตั้งแต่ 15-500% ก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น ตู้เย็นจะมีราคา 139,000 บาท สูงกว่าราคาปกติที่ผลิตในไทย 40% และหม้อหุงข้าวราคา 19,900 บาท สูงกว่าราคาปกติที่ผลิตในไทย 5 เท่า หรือราว 500% ซึ่งเมื่อเทียบเป็นสัดส่วนยอดขายแล้ว กลุ่มสินค้าเมดอินเจแปนสร้างรายได้ที่ 5%ของรายได้รวมทั้งหมดที่ตั้งไว้ในปีนี้
นายบุญชัยกล่าวต่อว่า ปัจจุบันฮิตาชิเซลส์มีผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำหน่ายในประเทศไทยในกลุ่มเอชเอเป็นหลัก เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ซึ่งทั้ง 3 ตัวนี้เป็นตัวหลักที่สร้างรายได้ ขณะที่ตู้เย็นถือเป็นผู้นำในตลาดไซด์บายไซด์ ด้วยแชร์กว่า 23% ถึงสิ้นปีนีนี้จะเพิ่มเป็น 25% ส่วนเครื่องซักผ้าคาดว่าจะเพิ่มแชร์ได้อีก 1-3% จากปัจจุบันมีแชร์ 15% นอกจากนี้ยังจำหน่ายเครื่องดูดฝุ่น หม้อหุงข้าว และเครื่องฟอกอากาศด้วย
โดยรายได้ในสิ้นปีงบประมาณ 2556 นี้ เชื่อว่าจะเติบโตได้ 15% มากกว่าตลาดเอชเอรวมมูลค่า 60,000 ล้านบาท ที่คาดโต 10% เป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจ หลังปีก่อนมีน้ำท่วมทำให้มีความต้องการของสินค้าสูงมากจนทำให้ในปีที่ผ่านมาตลาดเอชเอเติบโตถึง 15% ได้