xs
xsm
sm
md
lg

“คมนาคม” เริ่มวางระบบตั๋วร่วม ส.ค.นี้ คาดรถเมล์เอ็นจีวีลงทุนอีก 700 ล้านติด e-ticket

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม
“คมนาคม” เตรียมเปิดประมูลนานาชาติหาผู้ติดตั้งระบบตั๋วร่วม คาดไม่เกิน ส.ค.ได้ข้อสรุปและใช้เวลา 24 เดือนระบบสมบูรณ์พร้อมสนองนโยบาย 20 บาทตลอดสาย คาดมีผู้โดยสารทุกระบบใช้งานกว่า 10 ล้านทรานเซกชันต่อวัน ขณะที่รถเมล์เอ็นจีวี 3,183 คันลงทุนติดตั้งระบบตั๋วร่วมประมาณ 700 ล้าน

พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมวานนี้ (4 มี.ค.) ว่า ที่ประชุมรับทราบแผนการศึกษาระบบบริหารจัดการตั๋วร่วม (Program Management Service) ซึ่งมี 8 งานระยะเวลาดำเนินงาน 48 เดือน โดยจะเริ่มนำร่องใช้ระบบตั๋วร่วมหรือบัตรใบเดียวกับระบบทางด่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และมอเตอร์เวย์และดอนเมืองโทลล์เวย์ ของกรมทางหลวงได้ก่อนในสิ้นปี 2556 จากนั้นจะขยายไปยังรถฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ซึ่งคาดว่าจะต้องปรับปรุงระบบเพื่อรองรับตั๋วร่วมรายละประมาณ 100 ล้านบาท ส่วนโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 3,183 คันขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จะลงทุนระบบตั๋วร่วมประมาณ 700 ล้านบาทโดยระบบจะสมบูรณ์พร้อมรองรับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายได้ในปี 2558

ทั้งนี้ 8 งานหลักซึ่งเริ่มดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2556 ประกอบด้วย 1. นโยบายการบริหารจัดการซึ่งจะกำหนดตั๋วร่วมเป็นมาตรฐานเดียวแต่มีผู้ออกบัตรหลายราย 2. กำหนดมาตรฐานกลางระบบตั๋วร่วมโดยจ้างที่ปรึกษาทำรายละเอียดระบบตั๋วร่วมวงเงิน 290 ล้านบาท 3. เปิดประกวดราคาแบบนานาชาติคัดเลือกผู้วางระบบบริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing Houses หรือ CCH) กำหนดเปิดประมูลเดือนพฤษภาคม และสรุปผลประมูลเดือนสิงหาคมนี้ วงเงินลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท 4. ควบคุมการวางระบบให้แล้วเสร็จภายใน 18 เดือน และทดสอบระบบอีก 6 เดือน

5. จัดตั้งหน่วยงานผู้บริหารจัดการระบบทั้งหมดซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะจัดตั้งเป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคมหรือ บริษัทจำกัด โดยกระทรวงการคลังถือหุ้นบริหารในรูปแบบเอกชน กำหนดแล้วเสร็จใน 14 เดือน 6. การถ่ายทอดเทคโนโลยี 7. นำร่องใช้กับระบบทางด่วน 8. ทำประชาสัมพันธ์การมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งจะจัดในวันที่ 28 มีนาคมนี้

พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ทั่วโลกมี 5-6 บริษัทที่เป็นผู้วางระบบตั๋วร่วม เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น มาเลเซีย อังกฤษ ออสเตรเลีย ซึ่งการประมูลจะเปิดกว้างโดยคาดว่าระบบรถเมล์ รถไฟ ทางด่วนจะมีการใช้ระบบตั๋วร่วมประมาณ 7-8 ล้านทรานเซกชันต่อวัน และหากรถไฟฟ้า 10 สายแล้วเสร็จจะเพิ่มเป็น 10 ล้านทรานเซกชันต่อวัน โดยสามารถขยายขีดความสามารถรองรับได้ และยังนำฐานข้อมูลของระบบตั๋วร่วมไปช่วยในการวางแผนด้านจราจรได้อีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น