ASTVผู้จัดการรายวัน - ซัสโก้ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ทะยาน 2.8 หมื่นล้านบาท หลังฮุบปิโตรนาส ตั้งงบลงทุน 500 ล้านบาทใน 3 ปีนี้ปรับปรุงปั๊มและเปลี่ยนป้าย มั่นใจหาพันธมิตรทำร้านสะดวกซื้อในปั๊มเสร็จไตรมาส 2 นี้ พร้อมรุกธุรกิจน้ำมันอากาศยาน และขยายปั๊ม NGV เพิ่มอีก 5-10 ปั๊ม
นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) (SUSCO) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายรวม 2.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดขาย 1.7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีรายได้จากการขายน้ำมันเพิ่มขึ้นจากปั๊มปิโตรนาสที่บริษัทได้ซื้อกิจการเมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้จำนวนปั๊มน้ำมันเพิ่มขึ้นจาก 136 แห่งเป็น 235 แห่งในปีนี้ และตั้งเป้าจะเพิ่มให้ครบ 250 แห่งภายใน 2 ปีข้างหน้า ทำให้ยอดขายบริษัทขยับเพิ่มเป็น 3 หมื่นล้านบาท
สำหรับเงินลงทุนใน 3 ปีข้างหน้าอยู่ที่ 500 ล้านบาท แบ่งเป็นการปรับเปลี่ยนปั๊มน้ำมันจากปิโตรนาสเป็นซัสโก้ 200-300 ล้านบาท และที่เหลือลงทุนรีแบรนด์ปั๊มซัสโก้เดิม ซึ่งการปรับเปลี่ยนแบรนด์จากปิโตรนาสเป็นซัสโก้นั้น บริษัทฯ จะปรับปรุงภาพลักษณ์ปั๊มให้เหมาะสมกับพื้นที่ ลูกค้า โดยบางปั๊มอาจปรับเป็นปั๊มซัสโก้ พรีเมียม หรือปั๊มบูติก ถ้าเป็นจังหวัดท่องเที่ยว เป็นต้น โดยซัสโก้มีจุดเด่นด้านการบริหารจัดการต้นทุนที่ต่ำก็จะนำไปใช้ในปั๊มปิโตรนาสที่ซื้อมาด้วย ทำให้บริษัทมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและภาษี (EBITDA) เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะหันเข้าสู่ธุรกิจขายน้ำมันอากาศยาน (เจ็ต) จากเดิมที่ปิโตรนาสมีการทำตลาดอยู่แล้ว โดยให้บริการลูกค้าที่เป็นสายการบิน 6 ราย และมีแผนจะเพิ่มจำนวนลูกค้าน้ำมันเจ็ตให้มากขึ้น รวมทั้งยังทำตลาดส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย ซึ่งการซื้อปิโตรนาสนี้ทำให้บริษัทมีคลังน้ำมันเพิ่มขึ้นที่ลำลูกกา สระบุรี นอกเหนือจากที่มีอยู่ 3 คลังในจังหวัดสงขลา สุราษฎร์ธานี และกรุงเทพฯ ทำให้มีรายได้จากการใช้เช่าคลังเพิ่มขึ้น
นายชัยฤทธิ์กล่าวต่อว่า การซื้อกิจการปิโตรนาสเป็นการช่วยเสริมศักยภาพของซัสโก้มากขึ้น เนื่องจากเดิมบริษัทฯ มีปั๊มในกรุงเทพฯ และปริมณฑลค่อนข้างน้อยเพียง 18 แห่ง แต่หลังจากซื้อกิจการปิโตรนาสแล้วทำให้มีปั๊มอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเพิ่มขึ้นอีก 61 แห่ง จึงเป็นที่ดึงดูดพันธมิตรค้าปลีกน้ำมันที่สนใจเข้ามาเปิดร้านในปั๊มซัสโก้ ล่าสุดเจรจาอยู่ 2-3 รายได้คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 2 นี้ รวมทั้งการให้พันธมิตรธุรกิจร้านกาแฟ คาร์แคร์ ฯลฯ เข้ามาใช้พื้นที่
นายภิมุข ซึ่งดูแลปั๊มน้ำมันปิโตรนาสเดิม กล่าวว่า บริษัทฯ จะใช้งบลงทุน 200 ล้านบาทใน 2 ปีนี้ เพื่อปรับเปลี่ยนปั๊มจากแบรนด์ปิโตรนาสมาเป็นซัสโก้ทั้ง 96 แห่งภายในสิ้นปี 2557 โดยจะเริ่มทยอยปลดป้ายปิโตรนาสในปลายปีนี้ และบริษัทได้เจรจากับ ปตท.เพื่อเสนอพื้นที่ปั๊มน้ำมันบางแห่งมาทำสถานีบริการเอ็นจีวีเสริม เบื้องต้นเจรจาอยู่ 5-10 ปั๊มในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปลายปีนี้ ทำให้บริษัทมีปั๊มเอ็นจีวีเพิ่มขึ้นเป็น 15-20 ปั๊ม ส่วนปั๊มก๊าซแอลพีจีนั้นไม่มีนโยบายที่จะขยายเพิ่มเติมจากปัจจุบันมีอยู่ 5-6 ปั๊ม
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมประชุมกับดีลเลอร์ที่ดูแลปั๊มปิโตรนาสทั้งหมดในวันที่ 8-9 มี.ค.นี้ เพื่อสร้างความเข้าใจกับดีลเลอร์ในกรณีที่ซัสโก้เข้ามาซื้อกิจการปั๊มปิโตรนาสตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นดีลเลอร์และหาแนวทางความร่วมมือเพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจหลังจากเปลี่ยนแบรนด์จากปิโตรนาสเป็นซัสโก้แล้ว ปัจจุบันซัสโก้มีส่วนแบ่งตลาดค้าปลีกน้ำมันอยู่ 3% และรายได้หลักมาจากธุรกิจน้ำมัน ที่เหลือเป็นธุรกิจนอนออยล์มีรายได้ปีละไม่ถึง 100 ล้านบาท
นายพงศธร ฉัตรนะรัชต์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯมีแผนชำระหนี้คืน 300 กว่าล้านบาทให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงจากปีก่อน 1.6 เท่า ลงเหลือ 1.2-1.3 เท่า และจะต่ำลงกว่า 1 เท่าในปีถัดไป
ส่วนกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์ขึ้น SP และ NP หลักทรัพย์ SUSCO เนื่องจากผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ว่า เกิดจากการซื้อกิจการปิโตรนาสในช่วงปลายปี 55 ซึ่งเป็นการซื้อทรัพย์สินที่มีราคาถูกกว่ามูลค่าที่เหมาะสม โดยบริษัทได้ชี้แจงไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว คาดว่าจะตลาดฯจะปลดเครื่องหมาย SP ในวันที่ 5 มี.ค.นี้ ส่วนเครื่องหมาย NP คงปลดภายหลังจากแจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2556
นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) (SUSCO) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายรวม 2.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดขาย 1.7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีรายได้จากการขายน้ำมันเพิ่มขึ้นจากปั๊มปิโตรนาสที่บริษัทได้ซื้อกิจการเมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้จำนวนปั๊มน้ำมันเพิ่มขึ้นจาก 136 แห่งเป็น 235 แห่งในปีนี้ และตั้งเป้าจะเพิ่มให้ครบ 250 แห่งภายใน 2 ปีข้างหน้า ทำให้ยอดขายบริษัทขยับเพิ่มเป็น 3 หมื่นล้านบาท
สำหรับเงินลงทุนใน 3 ปีข้างหน้าอยู่ที่ 500 ล้านบาท แบ่งเป็นการปรับเปลี่ยนปั๊มน้ำมันจากปิโตรนาสเป็นซัสโก้ 200-300 ล้านบาท และที่เหลือลงทุนรีแบรนด์ปั๊มซัสโก้เดิม ซึ่งการปรับเปลี่ยนแบรนด์จากปิโตรนาสเป็นซัสโก้นั้น บริษัทฯ จะปรับปรุงภาพลักษณ์ปั๊มให้เหมาะสมกับพื้นที่ ลูกค้า โดยบางปั๊มอาจปรับเป็นปั๊มซัสโก้ พรีเมียม หรือปั๊มบูติก ถ้าเป็นจังหวัดท่องเที่ยว เป็นต้น โดยซัสโก้มีจุดเด่นด้านการบริหารจัดการต้นทุนที่ต่ำก็จะนำไปใช้ในปั๊มปิโตรนาสที่ซื้อมาด้วย ทำให้บริษัทมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและภาษี (EBITDA) เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะหันเข้าสู่ธุรกิจขายน้ำมันอากาศยาน (เจ็ต) จากเดิมที่ปิโตรนาสมีการทำตลาดอยู่แล้ว โดยให้บริการลูกค้าที่เป็นสายการบิน 6 ราย และมีแผนจะเพิ่มจำนวนลูกค้าน้ำมันเจ็ตให้มากขึ้น รวมทั้งยังทำตลาดส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย ซึ่งการซื้อปิโตรนาสนี้ทำให้บริษัทมีคลังน้ำมันเพิ่มขึ้นที่ลำลูกกา สระบุรี นอกเหนือจากที่มีอยู่ 3 คลังในจังหวัดสงขลา สุราษฎร์ธานี และกรุงเทพฯ ทำให้มีรายได้จากการใช้เช่าคลังเพิ่มขึ้น
นายชัยฤทธิ์กล่าวต่อว่า การซื้อกิจการปิโตรนาสเป็นการช่วยเสริมศักยภาพของซัสโก้มากขึ้น เนื่องจากเดิมบริษัทฯ มีปั๊มในกรุงเทพฯ และปริมณฑลค่อนข้างน้อยเพียง 18 แห่ง แต่หลังจากซื้อกิจการปิโตรนาสแล้วทำให้มีปั๊มอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเพิ่มขึ้นอีก 61 แห่ง จึงเป็นที่ดึงดูดพันธมิตรค้าปลีกน้ำมันที่สนใจเข้ามาเปิดร้านในปั๊มซัสโก้ ล่าสุดเจรจาอยู่ 2-3 รายได้คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 2 นี้ รวมทั้งการให้พันธมิตรธุรกิจร้านกาแฟ คาร์แคร์ ฯลฯ เข้ามาใช้พื้นที่
นายภิมุข ซึ่งดูแลปั๊มน้ำมันปิโตรนาสเดิม กล่าวว่า บริษัทฯ จะใช้งบลงทุน 200 ล้านบาทใน 2 ปีนี้ เพื่อปรับเปลี่ยนปั๊มจากแบรนด์ปิโตรนาสมาเป็นซัสโก้ทั้ง 96 แห่งภายในสิ้นปี 2557 โดยจะเริ่มทยอยปลดป้ายปิโตรนาสในปลายปีนี้ และบริษัทได้เจรจากับ ปตท.เพื่อเสนอพื้นที่ปั๊มน้ำมันบางแห่งมาทำสถานีบริการเอ็นจีวีเสริม เบื้องต้นเจรจาอยู่ 5-10 ปั๊มในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปลายปีนี้ ทำให้บริษัทมีปั๊มเอ็นจีวีเพิ่มขึ้นเป็น 15-20 ปั๊ม ส่วนปั๊มก๊าซแอลพีจีนั้นไม่มีนโยบายที่จะขยายเพิ่มเติมจากปัจจุบันมีอยู่ 5-6 ปั๊ม
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมประชุมกับดีลเลอร์ที่ดูแลปั๊มปิโตรนาสทั้งหมดในวันที่ 8-9 มี.ค.นี้ เพื่อสร้างความเข้าใจกับดีลเลอร์ในกรณีที่ซัสโก้เข้ามาซื้อกิจการปั๊มปิโตรนาสตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นดีลเลอร์และหาแนวทางความร่วมมือเพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจหลังจากเปลี่ยนแบรนด์จากปิโตรนาสเป็นซัสโก้แล้ว ปัจจุบันซัสโก้มีส่วนแบ่งตลาดค้าปลีกน้ำมันอยู่ 3% และรายได้หลักมาจากธุรกิจน้ำมัน ที่เหลือเป็นธุรกิจนอนออยล์มีรายได้ปีละไม่ถึง 100 ล้านบาท
นายพงศธร ฉัตรนะรัชต์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯมีแผนชำระหนี้คืน 300 กว่าล้านบาทให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงจากปีก่อน 1.6 เท่า ลงเหลือ 1.2-1.3 เท่า และจะต่ำลงกว่า 1 เท่าในปีถัดไป
ส่วนกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์ขึ้น SP และ NP หลักทรัพย์ SUSCO เนื่องจากผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ว่า เกิดจากการซื้อกิจการปิโตรนาสในช่วงปลายปี 55 ซึ่งเป็นการซื้อทรัพย์สินที่มีราคาถูกกว่ามูลค่าที่เหมาะสม โดยบริษัทได้ชี้แจงไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว คาดว่าจะตลาดฯจะปลดเครื่องหมาย SP ในวันที่ 5 มี.ค.นี้ ส่วนเครื่องหมาย NP คงปลดภายหลังจากแจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2556