เศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณโตแรง ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ปรับเป้าเติบโตใหม่เป็น 4.8-5.3% ชี้มีโอกาสโตมากกว่านี้ หากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวชัดเจน และการเมืองในประเทศไม่มีปัญหา เผยหมดโอกาสดอกเบี้ยขาลง มีแต่จะเพิ่มขึ้น
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ศูนย์ฯ ได้ปรับประมาณการณ์อัตราเติบโตเศรษฐกิจไทยปี 2556 ใหม่ โดยคาดว่าจะเติบโตในกรอบ 4.8-5.3% หรือมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 5% จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 4.5% และมีโอกาสเติบโตมากว่า 5.3% หากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมีความชัดเจนมากขึ้น และการเมืองไทยไม่มีปัญหา
ปัจจัยบวกที่ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเติบโต มาจากรัฐบาลยังคงอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าประมาณปลายไตรมาส 2 จะมีเม็ดเงินเข้ามาประมาณ 5 แสนล้านบาท ขณะที่การปรับขึ้นค่าแรง 300 บาทจะช่วยเพิ่มในเงินกระเป๋าผู้ใช้แรงงานอีกประมาณ 1 แสนล้านบาท การส่งออกปีนี้น่าจะมีเม็ดเงินเข้าประเทศเพิ่มขึ้นประมาณ 1 แสนล้านบาท ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวน่าจะเพิ่มอีกประมาณ 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้
ส่วนปัจจัยเสี่ยง ยังมีความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก บรรยากาศทางการเมืองของไทยหลังการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ผู้ประกอบการเริ่มปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นรับกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันที่คาดว่าจะปรับสูงขึ้น
ทั้งนี้ จากการปรับเพิ่มเป้าหมายเศรษฐกิจปีนี้จาก 4.5% เป็น 5% นั้น ศูนย์ฯ มองว่าการบริโภคในประเทศจะเติบโต 3.9% การลงทุนเติบโต 7.9% การส่งออก เติบโต 8.2% เกินดุลการค้า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภาคการเกษตร เติบโต 3.4% ภาคอุตสาหกรรมเติบโต 5.6% การท่องเที่ยว มีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 23.6 ล้านคน มีรายได้ 1.04 ล้านล้านบาทเป็นครั้งแรก ค่าเงินบาทเฉลี่ย 28.5-30.5 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เงินเฟ้อ 3.5% และราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 108-120 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ศูนย์ฯ ได้ปรับประมาณการณ์อัตราเติบโตเศรษฐกิจไทยปี 2556 ใหม่ โดยคาดว่าจะเติบโตในกรอบ 4.8-5.3% หรือมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 5% จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 4.5% และมีโอกาสเติบโตมากว่า 5.3% หากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมีความชัดเจนมากขึ้น และการเมืองไทยไม่มีปัญหา
ปัจจัยบวกที่ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเติบโต มาจากรัฐบาลยังคงอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าประมาณปลายไตรมาส 2 จะมีเม็ดเงินเข้ามาประมาณ 5 แสนล้านบาท ขณะที่การปรับขึ้นค่าแรง 300 บาทจะช่วยเพิ่มในเงินกระเป๋าผู้ใช้แรงงานอีกประมาณ 1 แสนล้านบาท การส่งออกปีนี้น่าจะมีเม็ดเงินเข้าประเทศเพิ่มขึ้นประมาณ 1 แสนล้านบาท ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวน่าจะเพิ่มอีกประมาณ 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้
ส่วนปัจจัยเสี่ยง ยังมีความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก บรรยากาศทางการเมืองของไทยหลังการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ผู้ประกอบการเริ่มปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นรับกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันที่คาดว่าจะปรับสูงขึ้น
ทั้งนี้ จากการปรับเพิ่มเป้าหมายเศรษฐกิจปีนี้จาก 4.5% เป็น 5% นั้น ศูนย์ฯ มองว่าการบริโภคในประเทศจะเติบโต 3.9% การลงทุนเติบโต 7.9% การส่งออก เติบโต 8.2% เกินดุลการค้า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภาคการเกษตร เติบโต 3.4% ภาคอุตสาหกรรมเติบโต 5.6% การท่องเที่ยว มีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 23.6 ล้านคน มีรายได้ 1.04 ล้านล้านบาทเป็นครั้งแรก ค่าเงินบาทเฉลี่ย 28.5-30.5 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เงินเฟ้อ 3.5% และราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 108-120 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล