แค่ตุ๊กตาของเล่นอิเล็กทรอนิกส์ที่ชื่อ เฟอร์บี้ (FURBY) ที่ไม่น่าจะมีอะไรมากไปกว่าของเล่นชิ้นหนึ่งสำหรับเด็กและวัยรุ่นแต่วันนี้ มันกลับกลายเป็นกระแสที่มาแรงมาก ทั้งมาจากการที่บรรดาดาราหรือเซเลบริตีถือมาเล่นกัน แล้วสื่อสารผ่านทางโลกโซเชียลมีเดียทำให้ผู้คนเห็นกันทั้งบ้านทั้งเมือง อย่างเช่น “ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ที่เป็นเฟอร์บี้ลิซึมอย่างหนักโชว์ออฟความเป็นเจ้าของถึง 14 ตัว ยิ่งทำให้คนอื่นอยากตามเทรนด์ด้วย ยังไม่นับรวมคนดังอีกมากที่เล่นโพสต์โชว์เฟอร์บี้ผ่านอินสตาแกรม ทำเอาเฟอร์บี้อาละวาดไปทั่วบ้านทั่วเมืองในเวลาอันสั้น และจุดประกายของสาวกเฟอร์บี้ทันที
ขณะที่เจ้าตัวเฟอร์บี้เองก็มีความอัจฉริยะด้านไฮเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นมากกว่ายุค 10 กว่าปีที่แล้วแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะการใส่ลูกเล่นที่ใช้แอปพลิเคชันสั่งการเฟอร์บี้ ไม่ว่าจะให้ร้องเพลง เล่นเกม เล่าเรื่องขำขัน การสอนภาษาใหม่ๆ ซึ่งมีจุดเซ็นเซอร์สัมผัส 3 ตัว ซึ่งทำให้การจดจำเสียงที่มาจากชิปคอมพิวเตอร์หลายตัวกว่า 14 เมกะเฮิรตซ์ และมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว โดยจะสื่อสารผ่านวิธีการจั๊กจี้ที่ท้องเฟอร์บี้ก็จะหัวเราะ เมื่อลูบหลังก็จะส่งเสียงแสดงอาการมีความสุข จะเคี้ยวอาหารเมื่อหิว เมื่ออิ่มก็บอกว่าอิ่ม ด้วยหน่วยความจำที่มากถึง 500 KB กับเทคโนโลยี Emoto-Tronics ที่ทำให้หน้าตาสมจริงมากขึ้น
จากความคลั่งไคล้ของเจ้าเฟอร์บี้นี้เองที่ทำให้คนอยากจับจองเป็นเจ้าของ แต่ด้วยความที่ราคาแพงเวอร์เหยียบ 4,000 บาทต่อตัว ต่ำไปแค่ 5 บาทเอง ทำให้การค้าขายเฟอร์บี้ผ่านทางเน็ตเข้ามาแทรกแซงทันทีจากพ่อค้าแม่ค้าเอกเทศ จนเกิดเป็นเรื่องราวคดีความที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จากกรณีกลุ่มผู้ซื้อสินค้าที่ได้รับความเสียหายกว่า 40 คนได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) หลังสั่งซื้อตุ๊กตา “เฟอร์บี้” ทางอินสตาแกรมแต่ไม่ได้รับสินค้าตามที่มีการตกลงซื้อขาย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 4.2 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ในประเทศไทยนั้นมีเพียง บริษัท แมพแอคทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายรายเดียวในไทยเท่านั้น
จริงๆ แล้วเจ้าตุ๊กตาขนปุยชื่อ เฟอร์บี้ กำเนิดขึ้นมาครั้งแรกเมื่อประมาณ 14 ปีที่แล้วที่อเมริกาโดยกลุ่มฮาสโบร (Hasbro) ผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่ของโลก ได้รับความนิยมอย่างมาก มี 4 สี คือ ขาว ขาวกับดำ เทากับชมพู และน้ำตาลกับชมพู ด้วยยอดขายที่ถล่มทลายกว่า 40 ล้านตัวทั่วโลก และประเทศไทยเองก็เกิดเฟอร์บี้ฟีเวอร์ในขณะนั้นด้วย กระทั่งกระแสเริ่มอ่อนแรงลง และเงียบไปในที่สุด กระทั่งทางบริษัท Hasbro ต้องการที่จะฟื้นชีพเฟอร์บี้อีกครั้ง คราวนี้จึงกลับมาพัฒนาอีกครั้งภายใต้คอนเซ็ปต์ I'm back และถือเป็นเฟอร์บี้รีเทิร์นรอบ 10 กว่าปี และไทยก็เป็นอีกตลาดหนึ่งที่ไม่ตกเทรนด์กับเขาด้วย
“เรานำเฟอร์บี้รุ่นที่หนึ่งเข้ามาขายในไทยเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว มีการเปิดตัว ทำตลาด โปรโมชัน และโฆษณา จนกระทั่งเริ่มเป็นที่รู้จักอีกครั้งกับกลุ่มใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยเล่นเฟอร์บี้มาก่อน อีกทั้งมีพวกเซเลบริตีซื้อไปเล่น และพกติดตัว โพสต์ลงเฟซบุ๊ก ก็เลยทำให้เกิดกระแสขึ้นมาทำให้ความต้องการของตลาดมีมากเกินความต้องการ จนสินค้าเราขาดตลาดช่วงปลายเดือนมกราคม ช่วงแรกเราจำหน่ายตามแผนกของเล่นห้างชั้นนำ เช่น เซ็นทรัล โรบินสัน เดอะมอลล์ ร้านทอยส์อาร์อัส เป็นต้น กระทั่งเมื่อปลายอาทิตย์ที่แล้วสินค้าล็อตใหม่ก็เพิ่งเข้ามาส่งไปตามร้านค้ารีเทล ได้ข่าวว่าชั่วโมงเดียวของก็หมดแล้ว แต่ตอนนี้เราก็สั่งสินค้าเพิ่มไปใหม่อีกแล้ว”
น.ส.นิสานาถ บุญแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารสินค้าเด็กและแฟชั่น บริษัท แมพ แอคทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าเฟอร์บี้กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของกระแสไม่น่าเชื่อว่าแค่ประมาณ 4 เดือนท้ายของปี 2555 ที่วางตลาด เฟอร์บี้มียอดขายสูงถึงประมาณ 50 ล้านบาท หรือขายได้มากกว่า 6,000 ตัวขึ้นไป
เป้าหมายในปีนี้ แมพ แอคทีฟจึงกำหนดว่าจะขายให้ได้มากกว่า 20,000 ตัว หรือมียอดขายจากเฟอร์บี้ประมาณ 200 กว่าล้านบาท เธอมั่นใจมากว่ามีความเป็นไปได้อย่างสูง เพราะขณะนี้ประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่เฟอร์บี้มาแรงอย่างมาก และติดอันดับท็อปทรีของเล่นยอดนิยมในไทย ขณะที่เฟอร์บี้ทั่วโลกติดอยู่ในอันดับท็อปไฟว์ และยังคงแรงต่อเนื่องอย่างน้อยถึงสิ้นปีนี้ค่อยมาว่ากันใหม่ อีกทั้งช่วงเดือนกันยายนจะมีเวอร์ชันใหม่ของเฟอร์บี้ออกมายั่วยวนเงินในกระเป๋าอีก กลยุทธ์สร้างกระแสก็คงจะถูกงัดมาใช้อีก กับลูกเล่นใหม่ๆ ที่พัฒนาเหนือขึ้นมาอีก กับราคาที่คงต้องแพงกว่าเดิมไม่น้อยกว่า 4,000 บาทขึ้นไป
“เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นข่าวคราวที่ซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตนั้นไม่เกี่ยวอะไรกับบริษัทเรา เพราะเราขายตามหน้าร้านค้ารีเทลปกติ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นนี้มองได้สองมุม คือ 1. เป็นผลดีเพราะช่วยสร้างกระแสให้กับเฟอร์บี้แรงขึ้นมาอีก 2. กระทบต่อเราบ้างในแง่ยอดขาย เพราะสินค้าขายผ่านเน็ตมีทั้งสินค้าเฟอร์บี้ของจริงกับของปลอม จะมีราคาประมาณต่ำกว่า 3,000 บาทต่อตัว ซึ่งต่ำกว่าเฟอร์บี้ที่บริษัทฯ ตั้งราคาไว้ที่ 3,995 บาทต่อตัว
มีเหมือนกันที่ลูกค้านำเฟอร์บี้ที่มีปัญหามาหาเราเพื่อจะขอให้ซ่อม ซึ่งเราดูแล้วอันนี้ไม่ใช่ซื้อกับเรา เราไม่สามารถทำได้ ซึ่งตรงนี้ก็อยากจะขอย้ำว่า การซื้อสินค้าที่ดีนั้นน่าจะมาซื้อจากร้านค้าที่สามารถจับต้องได้ดีกว่า”
แม้จะกระทบยอดขายไม่มากนัก แต่ในแง่ของชื่อเสียงก็อาจมีบ้าง ดังนั้น ล่าสุดเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วทางบริษัทฯ ได้ประสานงานกับทางทีมกฎหมายของฮาสโบรเพื่อหามาตรการในการดำเนินการต่อกลุ่มคน กลุ่มบริษัท ที่นำสินค้าเข้ามาซื้อขายผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต ที่ผ่านมาก็ได้เชิญบริษัทที่ตรวจสอบเจอว่าได้ทำการขายเช่นนี้เข้ามาเจรจาไปบ้างแล้วว่าให้เลิกทำในสิ่งที่ทำผิดกฎหมายอยู่นี้ เพราฉะนั้น เวลานี้ถ้าสาวกเฟอร์บี้รายใดเปิดเข้าไปตามเมลที่มีการซื้อขายสินค้านี้จะพบว่ามีหลายเว็บหยุดการขายชั่วคราวโดยอ้างว่าสินค้าขาดตลาด ซึ่งอันที่จริงแล้วนั่นคือพวกนั้นไม่กล้าที่จะขายเฟอร์บี้อีกต่อไปเพราะกลัวถูกเล่นงานตามกฎหมาย
ทั้งนี้ สินค้าที่นำเข้ามาขายในไทยจะต้องออเดอร์สั่งผ่านไปยังรีจินัลเฮดออฟฟิศที่ฮ่องกงก่อน แล้วส่งต่อไปที่สำนักงานใหญ่ของฮาสโบรที่อเมริกา แล้วจึงส่งสินค้าเข้ามาจำหน่ายในไทย
อย่างไรก็ตาม แมพ แอคทีฟเองก็ตั้งความหวังไว้ว่าการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตจากผู้ขายที่หิ้วเข้ามาขายเองต้องหมดไปหรืออย่างน้อยลดลงให้ได้มากกว่าเดิม เพราะมิเช่นนั้นแล้วจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของเฟอร์บี้เองในที่สุด ที่สำคัญมันจะทำให้กระแสแผ่วลงเร็วเกินกว่าที่ควรจะเป็น เพราะคนเข็ดที่จะถูกหลอก และการที่จะไปซื้อราคาเต็ม 3,995 บาทนั้นก็คงต้องคิดหนัก