เลคิเซ่ปั้น “อินเตอร์เนชั่นแนล ดิวิชั่น” บิสิเนสยูนิตใหม่ปักหมุดลุยเออีซีโดยเฉพาะ คาดใน 3 ปีสร้างรายได้เป็น 25% ของรายได้รวม ส่วนในประเทศ โวงานโปรเจกต์ทะลักเข้ามาเพียบ เหตุกระแสหลอดไฟแอลอีดีมาแรงถึงขีดสุด แห่เปลี่ยนใช้ บวกราคาลดลง มั่นใจดันรายได้รวมทั้งปีโต 40% ทะลุ 2,600 ล้านบาท
นายสมนึก โอวุฒิธรรม ประธานกรรมการบริหารเลคิเซ่กรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ส่องสว่างและประหยัดพลังงาน ภายใต้แบรนด์เลคิเซ่ เปิดเผยว่า ตามแผนการดำเนินงานที่ปีนี้บริษัทจะรุกทำตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มเออีซีนั้น ล่าสุดได้จัดเพิ่มนิวบิสิเนสยูนิตขึ้น ชื่อ อินเตอร์เนชั่นแนล ดิวิชั่น เพื่อเข้ามาทำตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา
เบื้องต้นจะทำตลาดต่างประเทศพร้อมกันใน 7 ประเทศ คือ พม่า มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และกัมพูชา เริ่มจากการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายหลักเพิ่มทั้ง 7 ประเทศ โดยมีเป้าหมายให้กลุ่มประเทศอาเซียนเหล่านี้ได้รู้จักสินค้าของไทยภายใต้แบรนด์เลคิเซ่ก่อน ส่วนเป้าหมายด้านรายได้มองไว้ว่า ภายใน 3 ปีน่าจะทำรายได้ให้บริษัทที่สัดส่วน 25% ของรายได้รวมได้
ส่วนแผนการดำเนินงานในประเทศนั้น เชื่อว่าภายในกลางปีนี้ทิศทางของหลอดไฟแอลอีดีจะเติบโตสูงมาก ส่วนสำคัญมาจากราคาที่ต่ำลง จับต้องได้ และช่วยลดต้นทุนด้านการใช้ไฟฟ้าที่ขณะนี้ค่าไฟกำลังปรับเพิ่มสูงขึ้น ทำให้บริษัทต่างๆ เตรียมเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟแอลอีดีทดแทน ส่งผลให้รายได้จากส่วนของงานโปรเจกต์มีติดต่อเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดันรายได้รวมในปีนี้เติบโตกว่า 40% หรือราว 2,600 ล้านบาทได้ จากปีก่อนมีการเติบโตที่ 25% เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรายได้ของเลคิเซ่มาจาก 4 ส่วนหลัก คือ 1. ค้าปลีกค้าส่ง ปีนี้คาดว่าจะเติบโต 20% คิดเป็นรายได้ 600 ล้านบาท 2. โออีเอ็ม โต 20% คิดเป็นรายได้ที่ 600 ล้านบาท 3. ส่งออก โต 20% คิดเป็นรายได้ 400 ล้านบาท และ 4. งานโปรเจกต์ คาดโต60% คิดเป็นรายได้กว่า 1,000 ล้านบาท โดยรายได้จากอินเตอร์เนชั่นแนล ดิวิชั่นจะอยู่ในส่วนของการส่งออก