จี้รัฐเร่งแก้แรงงานขาด โอบองแปงจ้องอินโดจีน

“แรงงาน” ขาด เอกชนวอนรัฐหามาตรการสนับสนุนและลดขั้นตอนการขออนุญาตแรงงานต่างชาติให้สั้นลงและง่ายขึ้น โอบองแปงปิดแผนรุก เล็งขอสิทธิอินโดจีน

นายนาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอบีพี คาเฟ่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านโอบองแปงในประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากลุ่มผู้ประกอบการภาคเอกชนได้มีการเจรจากันบ้างอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหาแรงงานในภาคบริการและอาหารที่ขาดแคลน เพราะขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ที่รุนแรงมาก ก่อนที่จะหาข้อสรุปเพื่อยื่นเรื่องต่อภาครัฐโดยกระทรวงแรงงานหาทางแก้ไขด้วย

แม้ตอนนี้ค่าแรงขั้นต่ำจะปรับขึ้นมาเป็น 300 บาทต่อวันทั่วประเทศแล้ว แต่ภาคธุรกิจบริการและโรงงานยังเจอปัญหาการแย่งชิงแรงงาน ซึ่งขณะนี้บางบริษัทต้องจ่ายมากกว่าขั้นต่ำที่รัฐกำหนด เป็น 450 บาทต่อวันเพื่อจูงใจผู้ใช้แรงงานมากที่สุด

เบื้องต้นต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนเพื่อเปิดทางให้แรงงานจากต่างประเทศเข้ามาทำงานในไทยมากขึ้นและง่ายขึ้นด้วย เช่น การลดขั้นตอนและระยะเวลาการดำเนินงานขออนุญาตของแรงงานต่างชาติ จากเดิมที่ต้องใช้เวลานานถึง 3-6 เดือน โดยร้านโอบองแปงเองก็ต้องใช้พนักงานไม่ต่ำกว่า 10-15 คนต่อสาขาถ้าเป็นร้านขนาดใหญ่

นายนาดีมกล่าวต่อถึงแผนการดำเนินงานว่า บริษัทฯ มีความสนใจที่จะขยายธุรกิจร้านโอบองแปงไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะกลุ่มประเทศอินโดจีน แต่ทั้งนี้คงต้องเจรจาขอไลเซนส์จากบริษัทแม่ของโอบองแปงก่อน

ที่ผ่านมาโอบองแปงประเทศไทยประสบความสำเร็จมากในรอบ 15 ปี และถือเป็นตลาดนอกอเมริกาที่สำคัญของโอบองแปงด้วยจากทั้งหมดที่มีเพียง 3 ประเทศนอกอเมริกา คือ ไทยมี 53 สาขา เติบโตมากกว่า 20% ทุกปี ส่วนอินเดียมี 25 สาขา และดูไบมี 5 สาขา ส่วนที่อเมริกามีประมาณ 250 สาขา ซึ่งเจ้าของลิขสิทธิ์มองประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญและประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก โดยคาดว่าในอีก 5-10 ปีไทยกับอินเดียรวมกันจะมีสาขามากกว่าที่อเมริกา

ปีที่แล้วมียอดรายได้รวมเติบโต 29% ซึ่งมากที่สุดเท่าที่ทำมาในไทย มาจากสาขาเดิมที่เติบโต 12% และตั้งเป้าหมายว่าในปี 2556 นี้จะเติบโตมากกว่า 20%

แผนปีนี้โอบองแปงจะเปิดสาขาใหม่รวม 7 สาขา แต่คาดว่าจะได้มากกว่าเป้าที่วางไว้ ลงทุนรวม 40 กว่าล้านบาท ซึ่งปีนี้เปิดไปแล้ว 2 สาขา คือที่โรงพยาบาลวิภาวดี สยามเซ็นเตอร์ และเตรียมเปิดสาขาใหม่ที่โรงพยาบาลศิริราช ขณะที่ปีที่แล้วเปิดร้านใหม่ได้ 9 สาขา มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 6 สาขาเนื่องจากได้ทำเลดีๆ เข้ามามาก

กลยุทธ์หลักปีนี้จะใช้ตัวผลิตภัณฑ์หรือเมนูอาหารเป็นตัวนำ และมีโปรโมชันตลอดทุก 45 วัน และเน้นเมนูเพื่อสุขภาพมากขึ้น เช่น เรดบราวน์ไรซ์เบเกิล เป็นต้น และพัฒนาเมนูท้องถิ่นมากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีเมนูท้องถิ่นประมาณ 15% เพื่อขยายฐานคนไทยด้วย โดยในอินเดียมีเมนูท้องถิ่นมากถึง 70% ซึ่งสัดส่วนลูกค้าของโอบองแปงไทยเป็นต่างชาติและคนไทยเท่ากันอย่างละครึ่ง